10 อันดับหนังไทย
มาต่อกันที่เรื่องราว ของอันดับหนังที่ผมค้างไว้ที่บทความที่แล้วนะครับ ว่า 5 อันดับแรก ที่กวาดรายได้สูงสุดไปของประเทศไทย ที่ผมจะนำมาฝากคุณผู้ชมกัน ดูหนังออนไลน์
หนังคุณภาพ ความคมชัดระดับ FULL HD 4K 5K เล่นหนังได้ไม่กระตุกทุกเฟรมเรท (frame rate) หรือก็คือจำนวนภาพที่ใช้ต่อหน่วยเป็นวินาทีหรือ per second เช่น เฟรมเรท 60 คือมีภาพ 60 ภาพต่อ 1 วินาที พร้อมรับประกันทุกคุณภาพ ภาพและ เสียง เวบหนัง
ของเราทำการ อัพเดท(Update) หนังใหม่ๆ ลงเวบทุกๆ1-2วันหรือทุกครั้งที่มีหนังใหม่ๆเข้าโรง เพื่อที่จะให้ทุกท่านได้ติดตามรับชมกันอย่างไม่ขาดสาย ทั้งนี้ทางเวบ ส้ม ปลา น้อย ได้จัดทำระบบตั้งค่าความละเอียด ไว้ให้ท่านได้เลือก เพื่อให้เหมาะสมกับอุปการณ์ของท่านและความเร็วของ อินเตอร์เน็ต(Internet) ตั้งแต่ 360p 720p 1080p UHD 4K 8k เป็นต้น ดูหนังฟรี
อันดับ 5 ขุนบันลือ (46.28 ล้านบาท)
หม่ำ จ๊กมก ซูเปอร์สตาร์ตลกชื่อดังของเมืองไทย กลับมาเล่นหนังเองกำกับเองอีกครั้งหลังจากกำกับภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายคือ ทาสรักอสูร เมื่อ 4 ปีก่อน โดยในเรื่องนี้เป็นหนังพีเรียดยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น หม่ำ จ๊กมกรับบทเป็นขุนบันลือ มีการผูกเรื่องให้เกิดที่จังหวัดเชียงราย เข้ากับกระแสข่าวโจ๊กในช่วงเวลาที่หนังกำลังสร้างว่า หม่ำมีเมียน้อยอยู่ที่เชียงราย (ตามที่โหน่ง ชะช่าช่า ชอบพูดในรายการโทรทัศน์) ผู้กำกับยังบอกอีกว่า ตั้งใจจะสร้างหนังเรื่องนี้มา 7 ปีแล้ว และอยากให้คนในครอบครัวมาเล่นกันหมด ติดที่ลูกสาวเพิ่งมีลูกเลยไม่สะดวกมาเล่นแค่คนเดียว
ผลงานจากบั้งไฟฟิล์มของนักแสดงตลกหม่ำ จ๊กมกที่ยังเป็นซุปตาร์สายตลกที่ทำหนังเรียกเงินคนดูได้เสมอ เปิดตัวช่วงส่งท้ายปลายปี 2561 ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงต้นปี โดยบั้งไฟฟิล์มมีหนังออกมาถึง 3 เรื่องในปี 2562 คือ สิ้น 3 ต่อน, บอร์ดี้การ์ดหน้าหัก และเรื่องนี้ ที่แม้ว่าบทในเรื่องจะดูเป็นงานด้นมุกสดกันหน้ากองระหว่างนักแสดงตลกทั้งหลาย มากกว่าจะมีบทเป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับแฟนหนังของหม่ำ ที่ต้องการเข้ามาเสพความบันเทิงล้วน ๆ จากหนังอยู่แล้ว เช่นเดียวกับงานกำกับก่อนหน้าอย่างไตรภาคแหยม ยโสธร หรือส่ม ภัค เสี่ยน
อันดับ 4 ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
แม้จะดูจากหน้าหนังและกระแสปากต่อปากหลังหนังเข้าฉายถึงความ “ไม่แมส” ของฮาวทูทิ้ง ผลงานลำดับที่ 7 ของผู้กำกับสายหนังติสท์อย่าง เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ แต่หนังก็ยังเข้ามาจอดป้ายในลำดับที่ 4 หนังทำเงินสูงสุดของปี แซงหน้าหนังแมสหรือหนังที่ดูจะเข้าถึงได้ง่ายกว่าอีกหลายต่อหลายเรื่อง
ครั้งหนึ่งผู้กำกับเต๋อ เคยพาฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ หนังไม่แมสแต่พ่ะยี่ห้อ GTH (ค่ายหนังก่อนเป็น GDH) ทำรายได้ไปถึง 80 ล้านบาทมาแล้วเมื่อปี 2558 และพระเอกของเต๋อก็เป็นซันนี่คนดีคนเดิมนี่เอง หนังยังสมทบด้วยนักแสดงมากฝีมือหลายคน ทั้งออกแบบ-ชุติมณฑน์ จากหนังร้อยล้านฉลาดเกมส์โกง และอาภาศิริ นิติพน
เป็นอีกครั้งที่ค่าย GDH ได้แสดงให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื่อใจของฐานแฟนคลับ ที่พร้อมจะให้การสนับสนุนทั้งหนังแมส (อย่างตุ๊ดส์ซี่หรือ Friend Zone) และหนังที่ดูจะเข้าถึงได้ยากแบบนี้ ซึ่งก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของคอหนังชาวไทยที่จะได้ลองรสชาติแปลกใหม่ของหนังในอีกรูปแบบ กับเรื่องนี้เอง
ผู้กำกับเต๋อก็เคยให้สัมภาษณ์ว่า เป็นหนังที่ประนีประนอมระหว่างการทำตามใจตัวเองกับทำตามตลาดที่สุดแล้ว เพราะอยู่ตรงกลางระหว่าง Die Tomorrow และฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ เป็นการปิดจบไตรภาคของหนังเกี่ยวกับชีวิตผู้คนที่เขาได้รับประสบการณ์และได้สัมผัสมา ไม่แน่หนังเรื่องต่อไปอาจจะเป็นหนังพีเรียดชีวประวัติบุคคลอะไรแบบนั้นไปเลยก็ได้
อันดับ 3 พี่นาค (53.01 ล้านบาท)
ถือเป็นเคล็ดได้เลยสำหรับหนังที่ชื่อนากหรือนาค ยิ่งบวกเข้ากับตำนานความสยองของผีไทยด้วยแล้ว ก็มักจะเชื้อเชิญให้คอหนังสยองขวัญชาวไทยตีตั๋วเข้าไปดูได้ไม่ยาก พี่นาคเป็นหนังเพียงเรื่องเดียวของค่ายเก่าแก่ของวงการหนังไทยอย่างไฟว์สตาร์ที่ออกฉายในปี 2562
แต่เรื่องเดียวก็อาจจะเพียงพอถ้าโดนใจคนดู เพราะหนังก็สามารถทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 3 ท่ามกลางหนัง 3 เรื่องของค่าย GDH ผลงานของผู้กำกับ ภณธฤต โชติกฤษฏาโสภณ หรือชื่อเดิม อชิร นกเทศ ที่เคยมีผลงานกับไฟว์สตาร์มาแล้วในหนังมอญซ่อนผี และตายโหง ตายเฮี้ยน ในตอน ซ่องผีท่าล้อซอย 9 รวมถึงเคยทำหน้าที่กำกับศิลป์ในหนังหอแต๋วแตก แหวกชิมิ, It Gets Better ไม่ได้ขอให้มารัก, ปล้นนะยะ 2 เป็นต้น
จุดขายของหนังที่อาจไม่ได้รับเสียงเชียร์จากฝั่งนักวิจารณ์เท่าไหร่นัก แต่ที่ถูกใจคนดูก็อยู่ที่นักแสดงสายตลกที่มาสร้างบรรยากาศโวยวายจนถูกใจคนดู
นำแสดงโดยนักแสดงวัยรุ่น ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ (จากละครฮิตของปีที่แล้วอย่าง “กรงกรรม”), วิทวัส รัตนบุญบารมี , คุณพัทธ์ พิเชษฐ์วรวุฒิ, อธิวัตน์ แสงเทียน, ภูริพรรธน์ เวชวงศาเตชาวัชร์ รวมถึงศิลปินดังอย่าง ชิน-ชินวุฒิ อินทรคูสินและ พลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล หนึ่งปีให้หลังความสำเร็จ
10 อันดับหนังไทยเดินทางกันมาถึง 2 อันดับแรกกันแล้วนะครับ มาดูเลยว่าจะเป็นเรื่องที่คุณคิดไว้หรือไม่
อันดับ 2 Friend Zone ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน (134.15 ล้านบาท)
ผลงานเรื่องแรกแบบเต็ม ๆ ของนักแสดงดาวรุ่งที่กำลังมาแรงอย่าง นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ ที่เคยฝากผลงานไว้ในพรจากฟ้าของค่าย GDH ในตอนยามเย็น มาก่อน ส่วนฝ่ายหญิงก็ได้มีผลงานหนังร้อยล้านเรื่องแรกเสียที สำหรับ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ที่เคยแจ้งเกิดจากหนังสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักมาแล้ว (ทำรายได้ไป 80 ล้านบาท) รวมถึงปีนี้ยังเป็นปีที่เธอได้มีผลงานละครสุดฮิตอย่างใบไม้ที่ปลิดปลิว
ซึ่งเธอรับบทเป็นสาวประเภทสองชื่อ”นิรา”ที่คนติดตามชมกันทั้งบ้านทั้งเมือง ผลงานหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้ที่เป็นแนวถนัดของค่าย GDH เรื่องนี้เป็นผลงานของ หมู-ชยนพ บุญประกอบ ที่เคยกำกับหนัง Suckseed ห่วยขั้นเทพ, เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ และพรจากฟ้า ตอนยามเย็น ที่ณภัทรเป็นพระเอกมาก่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานโรแมนติกเต็มตัวที่ใช้เวลาพัฒนาบทกันมาถึง 4 ปีเต็ม หลังจากหมูทำหนังวัยรุ่นมา 2 เรื่อง
สิ่งที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จ ก็คือช่วงเวลาเดือนแห่งความรักที่หนังวางโปรแกรมไว้ ซึ่งคนดูก็พร้อมเปิดใจต้อนรับหนังรักจาก GDH มาเป็นเวลาหลายสิบปีอยู่แล้ว นักแสดงทั้งสองคนก็ทำหน้าที่ได้ดีแม้ว่าตัวละคร “กิ๊ง” ของใบเฟิร์น จะทำแต่เรื่องไม่สมเหตุสมผลและไม่น่าเอาใจช่วยตลอดทั้งเรื่องเลยก็ตาม นอกจากนี้ หนังยังโชว์เพลงประกอบ “คิดมาก” ของปาล์มมี่ ที่ดัดแปลงให้นักร้องทั่วทั้งอาเซียนมาร่วมกันร้องในเพลงเดียวกันถึง 9 ภาษา ชนิดที่เรียกว่าพร้อมจะขายหนังไปยังทุกประเทศเพื่อนบ้านได้ทันที
10 อันดับหนังไทย อันดับ 1
ตุ๊ดซี่ส์ & เดอะ เฟค (136.01 ล้านบาท)
ต่อยอดความสำเร็จจากซีรีส์ไดอะรี่ตุ๊ดซี่ส์ที่มีออกมาแล้ว 2 ซีซันและมีฐานแฟนคลับอยู่พอสมควร สำหรับเรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากเพจดัง “บันทึกของตุ๊ด” ที่เรื่องราวในภาคนี้เป็นเรื่องแต่งใหม่ที่ไม่ได้นำมาจากเรื่องราวในเพจแล้ว หลังจากหายไป 2 ปีก็ได้เวลาสุกงอมที่ “กัส กอล์ฟ คิม แน็ตตี้”
จะกลับมาอีกครั้งในผลงานของผู้กำกับ กิตติภัค ทองอ่วม ที่กำกับซีรีส์มาตั้งแต่แรก ร่วมด้วยนักแสดงซุปตาร์ผู้ไปเดินพรมแดงเมืองคานส์มาแล้วทุกปีอย่าง ชมพู่-อารยา เอฮาร์เก็ต ที่มาร่วมงานกับ GDH เป็นครั้งแรก หลังจากเคยเป็นนางเอกร้อยล้านในคุณนายโฮ รวมถึงจำเนียน วิเวียน โตมร หนังของยอร์ช-ฤกษ์ชัย แห่งค่าย M39 มาก่อน
เคล็ดลับที่ทำให้หนังประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับในเคล็ดวิชาการตลาดของค่าย GDH ที่ร่ายมนต์อย่างได้ผลเสมอ (ในช่วงสัปดาห์ก่อนหนังเข้าฉายและสัปดาห์แรกที่หนังเข้าฉาย เราจะได้เห็นแก๊งตุ๊ดซี่ส์ไปออกรายการและเล่นละครซิตคอมของช่องแกรมมี่และช่องทั่วไปทุกวัน) รวมถึงการที่เลือกซีรีส์ที่มีฐานแฟนคลับรอชมอยู่แล้วมาทำเป็นหนัง (สูตรเดียวกับตอนที่นาคี เลือกจะทำภาค 2 เป็นหนังแทนที่จะเป็นละครจนประสบความสำเร็จถล่มทลาย) แถมยังเป็นช่วงเวลาเดือนแห่งความสุขที่มีวันหยุดเยอะ ครอบครัวพร้อมจะออกมาดูหนัง และไม่มีหนังฝรั่งเป็นคู่แข่งที่แข่งแรงเลยในช่วงเวลาฉายเดียวกัน
หากชอบบทความนี้ สามารถติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่ สปอยหนังดี