รีวิวหนัง 1917

ผลงานจากผู้กำกับอย่าง Sam Mendes กับการยกระดับหนังสงครามเข้าไปอีกขั้นเพราะว่ามันเป็นการนำเสนอแบบถ่ายยาว Long-Take ตลอดทั้งเรื่อง

สร้างมาจากคำบอกเล่าของนายทหารที่มีตัวตนจริงๆ ที่บอกเล่าชีวิตตนเองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กับเรื่องราวของนายทหารชั้นผู้น้อยที่ได้รับภารกิจให้ไปส่งจดหมายให้แนวหน้าล่าถอยหยุดการโจมตีให้ทัน เพราะพวกเขากำลังจะเดินไปติดกับดักของพวกเยอรมัน

ถึงแม้มันจะเป็นหนังสงครามแต่หนังมันก็ไม่ได้เน้นสงคราม ฉากสู้รบ ระเบิดตู้มต้าม ฝ่าดงกระสุนอะไรแบบนั้น แต่มันก็มีความลุ้นความตื่นเต้นในแบบของมัน กับการเอาตัวรอดของตัวเอกในสถานการณ์ต่าง ๆ มากกว่า ระหว่างทางเรายังได้เห็นผลกระทบของสงครามอยู่ตลอด เหมือนหนังกำลังพาเราทัวร์สงครามยังไง ไปเอาใจช่วยพวกเขา ว่าสงครามครั้งนี้จะจบลงอย่างไรที่ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง 1917-2

 

และความยอดเยี่ยมในเรื่องนี้ส่งให้คว้ารางวัลออสการ์ 3 สาขาจากการเข้าชิงทั้งหมด 10 สาขา และยังคว้า 2 ลูกโลกทองคำจากการเข้าชิงทั้งหมด 3 สาขา

หนังเล่าเรี่องราวของทหาร 2 นาย สคอฟิลด์ (จอร์จ แมคเคย์) และ เบลก (ดีน-ชาร์ลส์ แชปแมน)ที่ได้รับหน้าที่ให้ไปแจ้งกองแนวหน้าให้หยุดบุกถล่มฝั่งเยอรมันที่ถอยทัพกลับไป เนื่องจากมันเป็นกับดัก นี่คือเส้นเรื่องหลักเส้นเดียวทั้งหมดที่หนังจะเล่าให้เราฟัง และหลังจากนั้น หนังจะพาเราไปรับรู้ถึงความลำบาก เหตุการณ์ระหว่างการเดินทาง เข้าสู่แดนข้าศึก การสูญเสีย มิตรภาพ เครื่องบิน ลูกปืน ระเบิด บาดแผล ความเจ็บปวด แสงสีเสียง ในแบบ long cut ซึ่งถือว่าทำได้มีมาก ประทับใจจริงๆ

แซม เมนเดส ผู้กำกับของเรื่อง ได้หยิบเอาเรื่องเล่าของคุณปู่ตัวเองในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 มาขึ้นจอใหญ่ได้อย่างน่าสนใจ ยิ่งไปกว่านั้น 1917 ยังเป็นหนังสงครามที่สื่อสารออกมาผ่านมุมมองของ “คนตัวเล็ก” คนหนึ่งที่จำเป็นต้อง ต่อสู้ดิ้นรน และเอาชีวิตรอดจากความเลวร้ายในชีวิตอย่างไม่มีทางเลือก

ตลอดเส้นทางการเดินทางของตัวละครเราจะได้เห็นหลากอารมณ์ หลายความรู้สึกที่ตัวละครต้องเผชิญ ทั้งความหวาดกลัว ความคิดถึงคนรักที่เฝ้ารออยู่ที่บ้าน ความปรารถนาดีของตัวละครอันกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้คนดูเห็นว่า ตัวละครทุกตัวในหนังเรื่องนี้คือมนุษย์ล้วนแล้วกระทำผิดพลาดในชีวิตได้เช่นกัน

 

รีวิวหนัง 1917-3

 

ชื่อภาพยนตร์: 1917
ผู้กำกับภาพยนตร์: Sam Mendes
ผู้เขียนบทภาพยนตร์​: Sam Mendes, Krysty Wilson-Cairns
นักแสดง: Dean-Charles Chapman, George MacKay, Daniel Mays, Colin Firth, Andrew Scott
แนว/ประเภท: Drama, War
ความยาว: 119 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ปี: 2019
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 30 มกราคม 2020
รับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

รีวิวหนัง 1917 เนื้อหาสุดเข้มข้นภายในเรื่อง

สิ่งที่ 1917 มอบให้คนดูอย่างแรก คือความบันเทิง แต่สิ่งที่เป็นมากกว่านั้น คือหนังเลือกที่จะใช้ เทคนิคพิเศษด้านภาพยนตร์ โดยเฉพาะงานเบื้องหลัง อาทิ การออกแบบงานสร้าง การกำกับภาพ การตัดต่อ ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งคาดการณ์ว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นตัวเต็งในหลายสาขาโดยเฉพาะสาขาเกี่ยวกับเทคนิคในการสร้างนั่นเอง

แม้ว่าในส่วนของบทภาพยนตร์ จะไม่ได้มีอะไรใหม่ เพราะหนังพูดถึงความสูญเสีย และความรุนแรง ก็ถือเป็นประเด็นเดิมๆ ที่เรามักเห็นในหนังแนวสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ด้วยการนำเสนอที่น่าสนใจ จึงทำให้หนัง 1917 ควรค่าแก่การรับชมในโรงภาพยนตร์จอใหญ่อย่างแท้จริง

1917 เริ่มต้นฉากแรกจากนายทหารหนุ่มสองคนต้องออกเดินทางจากกองทหารของตัวเองเพื่อลัดเลาะออก ไปตามเส้นทางที่ไม่คุ้นชินตามลำพัง โดยเทคนิค ของการใช้กล้อง ติดตามตัวละครโดยแทบไม่มีการตัดต่อ ที่จริงมีการตัดต่อ แต่คนดูแทบจะดูไม่ออก ซึ่งช่วยเพิ่มอารมณ์ลุ้นระทึกและความน่าหวาดระแวงของผู้ชมไปพร้อมกับตัวละครขึ้นเรื่อยๆ อาทิ ฉากที่ทั้งสองต้องฝ่าลวดหนามและลุ้นว่าเหล่าข้าศึกอย่างเยอรมันถอนทัพออกไปแล้วหรือยัง ฉากอุโมงค์ระเบิดเพราะเหตุไม่คาดฝัน หรือเมืองร้างยามวิกาล

 

 

และแน่นอนว่า กำกับภาพโดย โรเจอร์ ดีกิ้นส์ ชื่อนี้ที่เรารู้จักกันดีเพราะ blade runner 2049 ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม ไม่ต้องเผื่อใจไว้เลยสำหรับ 1917 ว่าภาพจะสวยงามขนาดไหน ผู้กำกับ แซม เมนเดส ที่เคยได้รางวัลออสการ์มาแล้วกับ  Best Picture, Best Director ดีขนาดนี้ต้องไปดูกันแล้วที่ ดูหนังออนไลน์

และอย่างที่รู้ความยากของหนัง long cut คือนักแสดงจะต้องแสดงอยู่ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง แถมหนังเรื่องนี้เป็นหนังสงครามที่เป็นฉากนอกสถานที่ทั้งเรื่อง สิ่งที่ยากที่สุดคือ แสงที่ต้องต่อเนื่องอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทีมงานได้ซ้อมกันร่วม 10 เดือนเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับหนังสงครามที่ไม่ต้องสู้กับคนเรื่องนี้

จากเนื้อเรื่อง ถ้าจะเล่าเป็นหนังปกติธรรมดาทั่วไป ถึงปฏิบัติการภารกิจนี้ก็ทำได้ แต่ผู้กำกับ แซม เมนเดส กลับเลือกทางที่ยากกว่านั้น นั่นคือการใช้วิธีการเล่าแบบ One Continuous Shot หรือถ่ายแบบ Long Take ยาวตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบ (เอาจริงๆ ก็มีการตัดต่อแหละ แต่มันเนียนมากๆ)  ซึ่งการเลือกวิธีนี้ต้องอาศัยทั้งการฝึกซ้อม นักแสดงต้องแม่น คิวกล้องต้องเป๊ะ การวางบล็อกกิ่งในการถ่ายทำต้องแม่น อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้ทั้งนักแสดงทั้งตัวนำ ตัวสมทบ รวมถึงผู้กำกับภาพ โรเจอร์ ดีคิน ที่ทำเรื่องโคตรยาก ได้อย่างน่าอัศจรรย์มากๆ

ถึงจะเป็นวันช็อตเทียม แต่ลูกบ้าของการถ่ายทำ 1917 เป็น ‘ของแท้ แน่นอน ด้วยความที่หนังประกอบด้วยฉาก long take อันแสนซับซ้อนหลายฉากประกอบกัน เหล่านักแสดงและทีมงานจึงต้องฝึกซ้อมเรื่องตำแหน่ง การเคลื่อนไหว ลำดับคิว กันอยู่ 6 เดือน นอกจากนั้นสมรภูมิรบในหนัง

ยังเป็นพื้นที่กว้างและผู้กำกับต้องการถ่ายโดยรอบแบบ 360 องศา ดังนั้นหนังจึงใช้การจัดไฟไม่ได้ (เพราะกล้องจะถ่ายติดพวกแผงไฟหนังเลยต้องพึ่งแสงธรรมชาติเกือบทั้งเรื่อง แน่นอนว่าฟ้าฝนเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ บางวันทีมงานถ่ายหนังได้เพียง 5 นาทีเท่านั้น ดูหนัง

 

 

ข้อดีข้อเสียของหนังเรื่องนี้

มีอยู่ 2 ฉากที่ผู้เขียนรู้สึกทึ่งกับการถ่ายทำมาก หนึ่งคือฉากตอนกลางคืนที่พระเอกวิ่งไปมาท่ามกลางซากปรักหักพังแล้วมีการจุดพลุสัญญาณขึ้นฟ้า เมจิคของฉากนี้คือเงาของซากตึกที่พาดผ่านตัวละครไปมา อันเกิดจากการวางแผนมาอย่างดี (ทีมงานใช้วิธีการสร้างโมเดลย่อส่วนขึ้นมาเพื่อดูทิศทางของแสงและเงา

ส่วนอีกฉากคือตอนที่พระเอกวิ่งหนีระเบิดไปตามแนวสนามเพลาะ ถึงขั้นอุทานในใจว่ามันถ่ายกันยังไงครับเนี้ย ดูคลิปเบื้องหลังก็พบว่าต้องใช้วิธีส่งต่อกล้องจากเครนหนึ่งไปสู่อีกเครนเพื่อความต่อเนื่อง เป็นความบ้าดีเดือดแบบที่คนปกติเขาไม่ทำกัน

ข้อเสียที่พบในหนังเป็น เรื่องของดาบสองคม ในการเลือกการเล่าด้วยเทคนิคแบบเทคเดียว เพราะหนังสร้างจุดอ้างอิงไว้แต่ต้นว่านี่คือภารกิจเดินเท้าแบบเร่งด่วนที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงเพื่อจะถึง แต่เมื่อหนังมีความยาวเพียงราว 2 ชั่วโมง การอ้างอิงระยะทางของสถานที่ต่าง ๆ จึงต้องถูกบิดเบี้ยวไปจนขาดความสมจริง

อย่างฉากโรงหน้าที่ตัวละครไม่รู้ตัวเลยว่ามีขบวนรถของทหารวิ่งมาใกล้แบบห่างไปไม่กี่เมตร หรือการเดินทางจากเมืองสู่เมืองที่ดูสั้นกว่าความเป็นจริงมาก ยังไม่นับท่าทีการแสดงที่ประหนึ่งตัวละครเป็นนักแสดงบนละครเวทีที่ใช้การเคลื่อนตัวไม่กี่ก้าวก็เปลี่ยนฉากและอารมณ์ได้แล้ว

ส่วนอีกคนที่จะขาดเสียไม่ได้ เขาคือ George MacKay เพื่อนทหารที่เบลกดึงมาช่วยในภารกิจสำคัญ เขาอาจได้บทไม่สำคัญจนเป็นที่จดจำนัก แต่ในเรื่องนี้ 1917 เขาน่าจะเป็นที่จดจำของทุกๆ คนที่ได้ดู

แม้ว่าพล็อตจะดูเรียบง่ายเอามากๆ หากการดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ชวนให้รู้สึกลุ้นตามไปกับตัวละครด้วย เราไม่อาจไม่ไว้อะไรได้เลย ด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะอะไรเกิดขึ้นตอนไหน ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งหนังก็ดำเนินไปไม่มีหยุด ผ่านจากเรื่องไปเจอเรื่องนั้น ไม่มีช่วยให้หยุดหายใจหายคอ และเมื่อถึงเวลาน้ำตาก็ไหลซึมออกมาได้เองไม่ต้องบีบเค้นมันแต่อย่างใด

หากชอบผลงานการรีวิวหนัง สปอยหนัง สงครามดีๆ มันส์ และ สร้างจากเรื่องจริง สามารถติดตามได้ที่ รีวิวหนังบู้