รีวิว 4king หนังบู๊โคตรมันส์ในตำนาน ที่ไม่ได้สร้าง ตอนนี้ได้สร้างแล้ว รีวิวหนัง

รีวิว 4king

และแล้วประเทศไทยก็ได้มีหนังที่ถูกแบนไม่ให้สร้าง และไม่ให้ฉาก เนื่องจาก สังคมไม่พอใจกับเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้  ภาพยนตร์ฟรอมยักษ์ เรื่องใหม่ล่าสุดของคนไทย ที่เป็นกระแสโด่งดังไปทั่วประเทศ และได้รับการพูดถึงอย่างมาก นั่นคือเรื่อง 4 king พุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับที่จบจากวิทยาลัยเทคนิคราชสิทธารามจะเริ่มไล่ล่าความฝันการเป็น ผู้สร้างภาพยนตร์ โดยต่อสู้จากเด็กยกของ ด็กกองจนมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้กับ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค โครงการจะล่มไปเสียแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็ได้มาทำหนังยาวกับค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม จำกัด จึงทำให้หนังเรื่องนี้ น่าสนใจ ตามไปดูเลยอย่ารอช้า ที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

ร้อนแรงเกินห้ามใจเหลือเกินสำหรับว่าที่หนังเรื่องนี้  เป็นภาพยนตร์ไทยแห่งปี   อาชีวะยุค 90 ที่เข้าโรงอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมทำรายได้เปิดตัววันแรก 10ล้านบาท แต่ไม่ใช่แค่วันแรกเท่านั้นที่แรง เพราะในวันที่สองของการฉายก็สามารถรายได้เพิ่มไปอีกถึง 12 ล้านบาท  เยอะมากใช่ไหมครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะเยอะขนาดนี้

ซึ่งหลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า หนังไทยเรื่องนี้มันดีอย่างไร ทำไมถึงมาแรงขนาดนี้ หนังนักเรียนนักเลง หรือวัยรุ่นตีกัน มันจะมีอะไร มากกว่า คำไม่เพราะภาพของความคึกคะนอง หรือภาพของความรุนแรง แต่อยากบอกให้คุณรู้ไว้ตรงนี้ จากใจของคนที่ไปดูมาแล้วว่า คุณอาจจะต้องคิดใหม่ เป็นอีกโปรเจกต์หนังที่ใช้เวลาเดินทางมาอย่างยาวนานทีเดียวกว่าที่  ค่ายหนังไทยหน้าใหม่ที่ดูมีวิสัยทัศน์น่าสนใจทีเดียว

สิ่งที่ผมอยากให้คุณลองทำก่อนคือการเปิดใจ และให้โอกาสภาพยนตร์เรื่องนี้ มันไม่ใช่แค่ ความตั้งใจ และความใส่ใจของ ผู้กำกับ มันคือความละเอียดอ่อน และคือคำตอบที่ว่าทำไมหนังเรื่องนี้ คุณถึงต้องเข้าไปดู

 

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ นั้นนำเสนอเรื่องราวผ่าน บิลลี่ อินทร  ที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ตัวเองเคยก่อไว้ในอดีตและมันกัดกินหัวใจของเขาและครอบครัว ตัวหนังย้อนไปช่วงปี พ.ศ. 2538

บิลลี่, ดา อินทร และ ลูแปง อินทร คือนักเรียนช่างกลจากโรงเรียนอินทร ที่มีพร้อมมีเรื่อง กับโรงเรียนอาชีวะอื่น ๆ ทั้ง ประชาชล, กนก และบุรณพนธ์ ซึ่งทั้ง 4 โรงเรียนนี้เป็น 4 โรงเรียนที่เจอกันไม่ได้ เจอกันที่ไหน พังที่นั่น ดูหนัง

 

 

รีวิว 4king หนังดีเนื้อเรื่องมันส์ ที่ต้องดู 

ต้องยกให้เป็นอีกภาพยนตร์ไทยแห่งปีที่ทำได้ออกมาดีเกินคาดเลยทีเดียว สำหรับเรื่องนี้ ใช้หลายปีกว่าที่จะสร้างขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรื่องนี้กำกับโดย พุฒิพงษ์ นาคทอง ซึ่งเป็นศิษย์เก่าอาชีวะจาก วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม โดยเขาได้นำเรื่องราว ที่เคยได้ยินตั้งแต่สมัยเรียน ออกมาเขียนเป็นเรื่องเป็นราวที่ สะท้อนสังคมออกมาได้อย่างดี และทำให้วงการนี้น่าอยุ่ขึ้น

เรื่อง 4KINGS เป็นหนังเกี่ยวกับเด็กช่างจากทั้ง 4 สถาบันในยุค 90 ที่เป็นคู่แค้นกัน โดยมี อินทรอาชีวะ, เทคโนโลยีประชาชล, ช่างกลบุรณพนธ์ และ กนกอาชีวะ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นการเล่าผ่านสายตาของฝั่ง “อินทร” ที่มีคู่ปรับตัวฉกาจอย่าง “ชล” นั่นเอง โดยตัวหนัง “อินทร” จะค่อยๆพาเราไปรู้จักตัวละครอื่นๆมากขึ้น พาไปรู้จักชีวิตความเป็นอยู่ ความสัมพันธ์ของเพื่อน ครอบครัว รวมถึงเรื่องของความรักด้วยเช่นเดียวกัน

ด้วยความที่ตัวละครในเรื่องนี้ค่อนข้างเยอะ เรื่องราวจึงถูกถ่ายทอดโดย บิลลี่ อินทร ซึ่งมีเพื่อนสนิทคู่ซี้อย่าง ดา อินทร  ตัวละครที่เป็นเหมือนหัวโจกของกลุ่ม และ รูแปง อินทร (รับบทโดย ภูมิ รังษีธนานนท์) เป็นตัวแสบที่จะมาสร้างสีสันให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

ในขณะที่ ทางฝั่งของ  นักแสดงที่รับบท มด ประชาชล ที่ทั้งดุดัน โหดเหี้ยม ใจถึง พูดน้อย แต่เอาจริง และเอาหนักด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือเสน่ห์ ของหรังเรื่องนี้เลยครับ ตัวละครอื่น ๆ ก็เช่นกัน คือหากคุณอยากดูการแสดงดี ๆ กับบทหนังดี ๆ เรื่องนี้รวมให้ครบ จบที่เดียว

 

 

พูดมาถึงตอนนี้หลายคนอาจจะคาดหวังฉากบู๊ วิ่งไล่ฟัดกัน บอกก่อนว่า มีครับ แต่มันไม่ได้มากมาย หรือเยอะจนล้นขนาดนั้น บางฉากแค่เห็นว่าสู้กัน ก็ตัดออกแล้วด้วยซ้ำ

แต่ผมไมได้ผิดหวังเลยนะ เพราะหากคุณเปิดใจ และตั้งใจดู นี่มันคือหนังชีวิต มันคือหนังดราม่า ที่มีแอคชั่นเข้ามาเจือปน มันเป็นเหมือนที่ผู้กำกับพูดเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยนครับ มันคือหนังที่แสดงให้เห็นถึงความแย่ ความเลวร้ายของสังคมอาชีวะ ในตอนนั้น ความรักเพื่อน ปัญหาครอบครัว เบื้องลึก เบื้องหลังของตัวละคร เว็บดูหนัง

ทุกคนมีปม มีปัญหาของตัวเอง โดยเฉพาะฉากในสถานกักกันที่ของ บิลลี่ ,โอ๋ ประชาชล และเอก บุรณพนธ์ มันยิ่งแสดงให้เห็นชัดว่า พวกเขาไม่ใช่ไม่มีความคิด แต่ว่า พวกเขาถูกสังคมหล่อหลอมให้เป็นแบบนั้น ความรักเพื่อน ความรักสถาบัน และบทสรุปแห่งความสำนึกผิด ที่ต้องบอกว่า มันเล่าเรื่องออกมาได้ดี อย่างที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้อีกสองสิ่งที่ประทับใจคือ การดีไซน์ฉาก การดึงความเป็นยุค 90 ออกมา ทั้งคำพูด การแต่งตัว หรืออะไรต่าง ๆ มันคือใช่ ยิ่งใครที่เกิดในยุคนั้น ได้ใช้ชีวิตในยุคนั้น ผมเชื่อว่า อินหนักแน่นอน
อีกหนึ่งสิ่งที่ชอบมากๆ คือหนังมีการจั่วประเด็นด้วยบทสนทนาได้ดี ตั้งแต่คำพูด “ระหว่างเพื่อนกับสถาบัน กูว่ามันสำคัญเท่ากัน” หรือ “ถ้ากูไม่อยู่บู มึงไม่อยู่ชล เราจะตีกันมั้ยวะ” ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สังคมก็เกิดคำถามเช่นกัน แต่ตัวหนังไม่ได้ให้คำตอบเหล่านี้อย่างชัดเจน สิ่งที่หนังพยายามจะส่งสารให้คนดูคือ บทเรียนชีวิตที่ได้จากความผิดพลาดในอดีต

 

 

หนังดี ที่ต้องยกนิ้วให้ 

จุดที่น่าชื่นชมของหนัง มีหลายส่วนมากๆ ทั้งรายละเอียดความเป็นยุค 90 ที่ใส่เข้ามาได้สมจริงมาก รวมถึงคำพูดที่ไม่ได้ยินกันมานานแล้ว อย่าง เฟี้ยวว่ะ หรือ ไอเวรเอ้ย  หรือแม้แต่ จริงใจแต่ไม่จริงจัง” ก็เรียกว่าทำการบ้านมาค่อนข้างดี และส่วนที่ต้องขอชื่นชมมากที่สุดเลยคือ การคัดเลือกนักแสดง ที่มี 100 ขอให้เต็ม 100 เลย ทีมนักแสดงฝีมือเหลือล้นกันทุกคน

จุดเด่นของหนังคือการได้เด็กช่างตัวจริงที่ไปคลุกวงในเด็กช่างเด็กเทคนิคยุคปีเก้าศูนย์ มาจริง ๆ จนได้วัตถุดิบที่สมจริงมา ปรุงการเล่าเรื่อง แต่ละรายละเอียดในหนังเป็นการผสมผสานหลากหลายชีวิตและบทเรียนจากคนมากมายกว่าจะนำมาผูกสร้างเป็นตัวละค แม้จะยืนพื้นจากบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงและหลายคนก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน แต่ว่าทีมงานฉลาดเลือกที่จะทำให้มันเป็นเรื่องแต่งเพื่อไม่ให้กระทบคนจริง ๆ ที่ว่ามา และในแง่ดีคือมันใส่ลูกขยี้ลูก ดราม่าชีวิต บัดซบให้ตัวละครไ ด้มากขึ้นด้ว ดูหนังฟรี

หนังที่เล่าเรื่องได้ดี มี จุดเด่น ที่การได้เด็กช่างตัวจริงมากำกับและเขียนบท รวมที่ปรึกษาจากตำนานอาชีวะอย่าง นักแสดงนำของเรื่องนี้ ก็ทำให้เราคนดูเข้าใจปัญหาและสัมผัสกับความเจ็บปวดของเด็กช่างในยุคนั้นได้อย่างดี โดยทางทีมผู้สร้างไม่ได้ทำเพื่อชื่นชอบความรุนแรงหรือยุยง แต่มุ่งหวังให้หนังเรื่องนี้เป็นสะท้อนปัญหาสังคมเท่านั้น

 

 

หลังจากที่ดูมาในโรงเองกับตา สำหรับหนัง 4ราชัญ เรื่องนี้ อาชีวะยุค 90 หรือ โฟร์คิง ถ้าให้ตีออกมาเป็น ตัวเลขเลยคงจะให้  ถูกกดลงมา เพราะการกระจายบทที่รู้สึกว่า มันยังได้อีก แต่เชื่อเถอะว่า ภาพยนตร์ เรื่องนี้มีโอกาสสูงมาก ที่จะแตะ 100ล้านบาท ฉะนั้นคือที่ยังไม่ได้ดู ใครที่กำลังอคติ เปิดใจ และเข้าไปดูครับ คุณจะสนุกกับมันอย่างแน่นอน

นักแสดงทุกคนเล่นออกมาได้ดีและเข้ากันอย่างลงตัว ตัวละคนที่ทำให้ทุกคนรู้สึกคลายเครียดได้คือ รูแปง อินทร ซึ่งสามารถสร้างรอยยิ้ม ให้กับคนดูได้แทบจะตลอดทั้งเรื่อง อีกหนึ่งตัวละครที่ประทับใจที่สุดคือตัวละคร ยาท เด็กบ้าน ซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ได้อยู่ในโรงเรียนไหนไหนเลย แต่สามารถโชว์พลังความบ้าออกมาได้เต็มๆ และทำให้คนดูหมั่นไส้ ไปทั้งประเทศ ซึ่งจริงๆ เขาเป็นคนน่ารักครับ โดยส่วนตัวที่ได้เสพผลงาน

 

 

มีมาดนักเลงและความกวนโอ๊ยอยู่เต็มข้อ ทั้งยังมีตัวละครที่เป็นตัวป่วนและตัวแปรสำคัญอย่าง ยาท เด็กบ้าน รับบทโดย บิ้ก ดีเจอราด มาเพิ่มรสชาติให้กับหนัง ซึ่งโดยรวมหนังมีซีนที่น่าจดจำเยอะ ทั้งในพาร์ทความสนุกเฮฮา ความรุนแรง และความโศกเศร้า

โดยรวมแล้วเรื่องนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องไปดูให้ได้สักครั้ง และรับรองว่าจะ ต้องไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน  รีวิวหนังออนไลน์