Spider-Man No Way Home
กำเนิดพหุจักรวาล ความวุ่นวายครั้งใหม่ใน Spider-Man: No Way Home ที่เกิดจาก สไปเดอร์แมน และ ดร.สเตรนจ์
Spider-Man ไม่ต้องซ่อนตัวใต้หน้ากากอีกต่อไป และเขาไม่สามารถแยกชีวิตในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ออกจากชีวิตปกติได้อีกต่อไป เมื่อเขาไปขอให้ด็อกเตอร์สเตรนจ์ช่วยเหลือ แต่มันกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิม บังคับให้เขาต้องหาทางแก้ไขและหาความหมายของการเป็นสไปเดอร์แมน หนังเรื่องนี้จะแนะนำสิ่งที่เรียกว่า Multiverse ในจักรวาลมาร์เวลอย่างเป็นทางการ
รวมความหลากหลายของอารมณ์ที่คุณจะได้สัมผัสจากภาพยนตร์เรื่อง spider man : no way home และภาระกิจที่เค้าจะต้องทำและเปลี่ยนแปลงชีวิตเค้าไปตลอดกาล และนี่คือ Spider man ในฉบับของทอม ฮอลแลนด์ ที่จะทำให้คุณหลงรักเค้ามากยิ่งขึ้นอีกแน่นอน ดูหนังออนไลน์ฟรี
เนื้อเรื่องมีความพิเศษอยู่มากมาย ถ้าใครเป็นแฟน Spider man หรือ Marvel คือห้ามพลาด เพราะว่ามันดีมาก คุณจะได้เห็นฉากที่คุณต้องโห่ร้อง ยิ้ม หัวเราะ น้ำตาซึมอย่างไม่รู้ตัว ส่วนตัวก่อนหน้านี้ ค่อนข้างเฉยๆ กับการรับบทนี้ ของน้อง ทอม ฮอลแลนด์ ไม่อะไรเท่าไหร่
แต่ ภาคนี้ ต้องยอมรับว่า รักน้องทอมมากในบท Spider-Man ที่เขาได้รับ การเติบโตอย่างแท้จริง และนี้คือภาพยนตร์ดีๆ ที่คุณไม่ควรพลาด ในรอบปีนี้ เลยทีเดียว ดูหนังฟรี
Spider-Man No Way Home หนังภาคนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับอะไร
ภาพยนตร์ สไปเดอร์แมนเรื่องที่สามนั้น มีการวางแผนเอาไว้เมื่อต้นปี ค.ศ. 2017 ช่วงระหว่างการสร้าง โฮมคัมมิ่ง ต่อมาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2019 การเจรจาระหว่างโซนี่กับมาร์เวลสตูดิโอส์เพื่อแก้ไขข้อตกลงของพวกเขา ด้วยการสร้างภาพยนตร์สไปเดอร์แมนร่วมกัน การเจรจาจบลงด้วยการที่มาร์เวลสตูดิโอส์ออกจากโครงการ อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาเชิงลบของแฟน ๆ นำไปสู่ข้อตกลงใหม่ระหว่างทั้งสองบริษัทในเดือนต่อมา วอตส์, แม็กเคนนา, ซอมเมอส์และฮอลแลนด์ ถูกกำหนดให้กลับมาทำหน้าที่เดิมของแต่คนในช่วงเวลานั้น การถ่ายทำเริ่มต้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 ที่เมืองนิวยอร์ก ก่อนจะย้ายไปถ่ายทำที่แอตแลนตาในเดือนเดียวกัน
หลังจากเหตุการณ์ใน Far From Home ปีเตอร์ ถูกเปิดเผยตัวตนภายใต้หน้ากากสไปเดอร์-แมนเป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้ชีวิตนักเรียนมัธยมปลายในช่วงอายุ 17 ปีเกิดความยุ่งเหยิงในทันที มิหนำซ้ำบรรดาเพื่อนสนิท รวมไปถึงคนที่เขารักต้องตกอยู่ในอันตราย ดูหนังออนไลน์4k
ความโกลาหลที่เกิดขึ้น ยังสร้างผลกระทบเกี่ยวกับการได้รับพิจารณา เพื่อเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ไม่เพียงเท่านั้นสำหรับเอ็มเจและเน็ด ยังโดนกล่าวหาจากสื่อฯ ว่าทั้งสองเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดต่อการกระทำที่เกิดขึ้นในหนัง Far From Home ปีเตอร์ ผู้รู้สึกว่าตนเองเป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมดและไม่อาจจะทนเห็นความฝันของเพื่อนๆพังทลายลงได้ เขาจึงไปร้องขอให้ด๊อกเตอร์สเตรนจ์ช่วยเหลือให้ “ความลับ” ของปีเตอร์กลับไปเป็นดังเดิม คือไม่มีใครล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา
ท่ามกลางความหนักใจของด๊อกเตอร์สเตรนจ์ในการร่ายเวทมนตร์แห่งการลืม แต่เมื่อปีเตอร์เกิดฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าทำอย่างนั้นไปแล้วจะส่งผลให้ เอ็ดเจ เน็ด และป้าเมย์ รวมถึงแฮปปี้ลืมไปว่าเขาคือสไปเดอร์-แมน ปีเตอร์จึงขัดกลางปล้องระหว่างที่สเตรนจ์ กำลังร่ายมนต์เป็นเหตุให้จักรวาลอื่นๆเกิดรอยแตกแยก จนกระทั่งบรรดาศัตรูของสไปเดอร์-แมนในจักรวาลอื่นๆหลุดเข้ามาในจักรวาลของตัวเอง ส่งผลให้ปีเตอร์ต้องรับผิดชอบผลแห่งการกระทำในครั้งนี้ด้วยตัวเอง
ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์
ถ้าเรายังพอจดจำคำพูดของโทนี่ สตาร์คใน Captain America: Civil War ที่ถามปีเตอร์ไว้ว่า “เธอเป็นสไปเดอร์บอยหรือเปล่า” ตลอดการปรากฏในหนังเรื่องต่างๆของมาร์เวลได้พิสูจน์คำกล่าวนั้นไว้อย่างชัดเจน แต่คงไม่ใช่สำหรับ No Way Home ที่เราอาจจะกล่าวได้ว่าเขากำลังจะกลายเป็น “สไปเดอร์แมน” อย่างเต็มตัว และทั้งหมด
สำหรับตัวผู้อำนวยการสร้างหนัง มาร์เวลอย่างเควิน ไฟกี้มอบมุมมองต่อตัวละครปีเตอร์ว่า ตัวละครนี้ไม่เคยเผชิญความยากลำบากต่อการคิดหาคำตอบว่า “ความถูกต้อง” สำหรับเขานั้นจะส่งผลอะไรบ้าง ใน Spider-Man: No Way Home เริ่มต้นเรื่องราวทันที่ภายหลังจากเหตุการณ์ในหนังภาค Far From Home ทันที่
ตัวตนของสไปเดอร์แมนถูกเปิดเผยออกมาท่ามกลางชีวิตปีสุดท้าย ในโรงเรียนมัธยม รอยต่อของชีวิต การเปลี่ยนผ่าน มันจึงแตกต่างสุดขั้วกับเรื่องราวตอน Homecoming เว็บดูหนังฟรี
เมื่อเราลองย้อนกลับไปในแฟรนไชส์สไปเดอร์แมนฉบับนี้ใน Homecoming ปีเตอร์ได้โทนี่ สตาร์คมาคอยเป็นเมนทอร์ให้คำปรึกษา ด้วยความเป็นวัยรุ่นมีพลังพิเศษทำให้เขาอยากร่วมทีมอเวนเจอร์สเป็นอย่างมาก แต่โทนี่ก็คอยให้คำแนะนำ ห้ามปราม อบรมประหนึ่งเป็นพ่อคนที่สองของปีเตอร์ ที่อยากให้เขาวางตัวเป็นแค่เพียง “สไปเดอร์แมน เพื่อนบ้านที่เป็นมิตร” มากกว่า ถัดมาใน Far From Home
หลังจากที่ปีเตอร์สูญเสียโทนี่ไปและยังคงทำใจไม่ได้ แต่เขากลับพบว่าเมื่อหน้าที่ได้เรียกร้องให้เขาต้องสวมบทบาทเป็นสไปเดอร์แมน เขาก็โอบรับสิ่งที่ตัวเองเป็น มิหนำซ้ำในตอนท้ายของหนังภาคก่อนเรายังมองเห็นว่า สำหรับปีเตอร์แล้วเขาพร้อมที่จะเป็นตัวเอง ควบคู่ไปพร้อมๆกับการเป็นฮีโร่ ที่ทุกคนคาดหวังจะให้เขาเป็นด้วยเช่นกัน แต่แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็เกิดการกลับตาลปัตรทันที เมื่อตัวจนของเขาถูกเปิดเผยขึ้น และถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ก่อคดีฆาตกรรมเควนติน เบ็คหรือมิสเทริโอ จนนำมาสู่การตอบคำถามดังกล่าวในหนังภาคล่าสุด สปอยหนังบู้
ทีเซอร์ฉบับจริงออกมา เสียเลยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา และสำหรับทีเซอร์ของจริงนี้แฟนๆ มาร์เวลและสไปดี้ก็เตรียมตัวพบกับการผจญภัยครั้งใหม่หลังรอลุ้นค้างเติ่งกันมาอย่างยาวนาน ด้วยภาคล่าสุดที่ทิ้งท้ายเรื่องเอาไว้ว่าสไปเดอร์แมนถูกเผยโฉมแล้วว่าคือ Peter Parker แฟนๆ จึงลุ้นกันยกใหญ่ว่าเนื้อเรื่องครั้งใหม่นี้จะดำเนินไปในทิศทางไหนบ้าง
ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ก็คงจะหนีไม่พ้นการใช้คาถาร่ายเวทย์ ซึ่งเดาว่ามันคือคาถาที่ใช้ลบความทรงจำทุกคน ที่รู้ว่าเขาคือสไปเดอร์แมนออกไป หรืออาจเป็นคาถาที่ช่วยเรื่องการย้อนเวลา กลับไปช่วงเวลาก่อนหน้านั้น และในทีเซอร์ยังมีช่วงจังหวะที่ตัวละครหว่องพูดไว้อีกว่าไม่ให้ใช้เวทมนตร์คาถานั้นในการช่วยเหลือเด็ดขาด เพราะในภาพยนตร์ของ จักรวาลมาร์เวลยังมีการพูดอยู่ตลอดเวลาว่าการย้อนเวลากลับหรือบิดเบือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมักส่งผลลัพธ์ที่หักเหไปจากเดิมและคาดไม่ถึงเสมอ ซึ่งจากทีเซอร์แล้วก็คาดการณ์ว่าคาถามันจะเกิดการผิดพลาดและบิดเบี้ยวมิติคู่ขนานขึ้น ไม่แน่ว่าทั้งสไปเดอร์แมนและด็อกเตอร์ สเตรนจ์ เองก็อาจหลุดเข้าไปสู่ Multiverse แล้วก็เป็นได้ โดยด็อกเตอร์ สเตรนจ์
โดยเส้นเรื่องในภาคนี้อ้างอิงจากทีเซอร์แล้วเป็นการเล่าต่อจากเหตุการณ์ที่สไปเดอร์แมนถูกเผยตัวตนว่าเป็นใคร ตามมาด้วยคลิปวิดีโอจากตัวร้ายภาคก่อนหน้าอย่าง Mysterio ที่ป้ายสีฮีโร่วัยมัธยมปลายไว้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นและการที่เขาตายเป็นเพราะสไปเดอร์แมน เนื้อเรื่องจึงน่าจะดำเนินไปบนเส้นทางของการที่สไปเดอร์แมนตกเป็นจำเลยของสังคม และพยายามแก้ไขความถูกต้องกลับคืนมาอีกครั้ง เรายังได้เห็นฉากที่เหล่าคนรอบตัวของเขาถูกสอบสวนในโรงพักทั้งเพื่อนสนิทอย่างเนตและป้าเมย์ สไปดี้จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องคนที่เขารักและแก้ไขเหตุการณ์ใ ห้กลับมาเป็นเหมือนเดิมให้ได้ เราถึงได้เห็นตัวละครสไปดี้ตามไปขอความช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมอเวนเจอร์สอย่าง Doctor Strange กันในเรื่องอีกด้วย
ในการฉายภาพยนตร์ในลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2021 ฉายในสหรัฐเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2021 และฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 2021 โดยเป็นส่วนหนึ่งของระยะสี่ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ โดยชมในเรื่องเนื้อเรื่อง, ทิศทางของภาพยนตร์, ฉากโลดโผนและการแสดงและเคมีของนักแสดง
คาดการณ์เรื่องที่สองคือ เราอาจมีโอกาสได้เห็นสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นอื่นๆ ทั้งฉบับของโทบี้และแอนดรูว์ในเรื่องโผล่มาแจมด้วยก็เป็นได้ เพราะมีข่าวลือหลุดออกมาว่าเรื่องนี้จะเล่าถึงโลกคู่ขนาน (ซึ่งสังเกตได้จากการช่วยเหลือของ ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ที่เข้าไปพัวพันกับมิติคู่ขนาน และการพูดถึงเรื่องของ Multiverse ตลอดเวลาในทีเซอร์) ซึ่งมันอาจส่งผลให้เราได้เห็นตัวละครอย่างสไปเดอร์แมน เวอร์ชั่นก่อนหน้าด้วยก็เป็นได้
เรียกว่าเป็นการข้ามมิติคู่ขนานที่ดูยุงเหยิงและอิรุงตุงนังใช้ได้ ไม่รู้ว่าที่เราคาดการณ์มาทั้งหมดจะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน จะถูกตุ๋นหม้อใหญ่จากค่ายมาร์เวลและโซนี่หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ฮีโร่สไปดี้ภาคนี้ก็ยังพยายามที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องและปกป้องคนที่เขารักอย่างแน่นอน
ภาพยนตร์ทำเงิน 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 1 ในปี ค.ศ. 2021 และภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 6 นอกจากนี้ยังทำลายสถิติหลายรายการในบ็อกซ์ออฟฟิศ รวมถึงเป็นภาพยนตร์ที่ฉายระหว่างการระบาดทั่วของโควิด-19 ภาพยนตร์ภาคต่อกำลังอยู่ในการพัฒนา
ปาร์คเกอร์ทั้งสามคน พัฒนายารักษาสำหรับวายร้ายและล่อดิลลอน, มาร์โกและคอนเนอร์ให้ไปที่อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ปีเตอร์-สองและปาร์คเกอร์รักษามาร์โกและคอนเนอร์ เมื่อออกเตเวียสมาถึงเพื่อมาช่วยและรักษาดิลลอน เน็ดปล่อยสเตรนจ์ออกจากมิติกระจกด้วยประตูมิติ แต่เมื่อออสบอร์นมาถึงและปลดปล่อยคาถาที่กักขังไว้ ทำให้มันเริ่มดึงผู้คนเข้ามาจากจักรวาลอื่นมากขึ้น สเตรนจ์พยายามจะรั้งพวกเขาไว้ ขณะที่ปาร์คเกอร์ผู้โกรธแค้นพยายามจะฆ่าออสบอร์น ปีเตอร์-สองหยุดเขาและปีเตอร์-สามช่วยปาร์คเกอร์ฉีดยารักษาออสบอร์นเพื่อฟื้นฟูสติของเขา ปาร์คเกอร์ตระหนักดีว่าวิธีเดียวที่จะปกป้องพหุจักรวาลคือการลบตัวเองออกจากความทรงจำ ของทุกคนและขอให้สเตรนจ์ทำเช่นนั้น ขณะที่สัญญากับเอ็มเจและเน็ดว่าเขาจะพบพวกเขาอีกครั้ง คาถาถูกร่าย และทุกคนกลับสู่จักรวาลของตน รีวิวหนังออนไลน์