รีวิว Raat Akeli Hai
หนังอาชญากรรมจากอินเดียว แนว ลึกลับ พล๊อตเรื่อง เกี่ยวกับ ตำรวจนักสืบทำคดีที่เจ้าของบ้านถูกฆาตกรรมหลังแต่งงานได้ไม่นาน ความขัดแย้งในใจเขาเองประกอบกับครอบครัวของเหยื่อที่คล้ายจะมีความลับทำให้คดีซับซ้อนยิ่งขึ้น เรื่องราวเหตุฆาตกรรมที่ซ่อนเงื่อนงำ เขาจะจับคนร้ายที่แท้จริงได้หรือไม่ ต้องมาติดตามชมที่ ดูหนังออนไลน์ ที่นี่ที่เดียว มีให้ดูก่อนใคร
ฆาตกรรมในคืนเปลี่ยว (Raat Akeli Hai) หนังอินเดีย Original Netflix แนวสืบสวนฆาตกรรมที่ไม่ได้เป็นแนวบู้ดุเดือด แต่มาในแบบนักสืบของฝรั่งที่มุ่งปะติดปะต่อเรื่องราวหาแรงจูงใจ และก็มีกลิ่นอายความเหมือน Knives Out หนังสืบสวนเรื่องดังของปีที่แล้ว ที่มาในรูปของคดีฆาตกรรมมรดกเลือด อันเป็นพล็อตต้นตอของนักสืบแนวนี้ที่ใช้กันประจำ ดูเรื่องนี้ได้ที เว็บดูหนังฟรี
เรื่องนี้สร้างจากนิยายในชื่อเดียวกันและก็ตีพิมพ์ขายทั่วโลกได้รับคำชมมากมาย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าตัวพล็อตโครงเรื่องราวอยู่ในขั้นดีมาก เนื้อเรื่องมีความสดใหม่แตกต่าง และก็มีหลายมิติแง่มุมที่น่าสนใจทั้งทางวิทยาศาสตร์ สังคม การเมือง การศึกษา ชนชั้นวรรณะของอินเดีย มีรวมครบอยู่ในเรื่องเดียวกัน โดยจุดศูนย์กลางของเรื่องคือ “อาทิ” เด็กน้อยวัย 10 ขวบที่ถูกขนานนามว่าไอน์สไตน์คนใหม่ ที่ใครๆ ก็ต่างมารุมห้อมล้อมหาผลประโยชน์จากตัวเขา
โดยที่ไม่รู้ว่าความอัจฉริยะที่เห็นผ่านสื่อกับเรื่องราวในโรงเรียนนั้นมาจากความช่วยเหลืออย่างลับๆ ของ “มานิ” พ่อผู้ซึ่งไม่อยากให้ลูกตกที่นั่งเดียวกับตนในอดีต จากการที่เป็นวรรณะศูทรต่ำสุดที่เกิดมาเป็นแรงงานและโดนปิดกั้นการศึกษา ทำให้เขาฝังใจเป็นปมด้อยตลอดมา แม้ว่าจะเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงของอินเดีย แต่ก็ถูกเหยียดไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนคนเท่าเทียมกั
ตัวเรื่องยาวมากถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่ดูได้พลินๆ ไม่ได้น่าเบื่อเพราะการแสดงของ นาวาซัดดิน มีหลายอารมณ์ หนังไม่เครียด มีแอบตลกอยู่เรื่อยๆ อย่างฉากเขาเถียงกับแม่ หรือการที่เป็นตำรวจแปลกๆ นอกคอกกว่าคนอื่นในสถานี ทำให้บุคลิกนิสัยติดดินของพระเอกช่วยทำให้เรื่องดูมีอะไรน่าติดตามแทบทุกจุด
อย่างเรื่องความรักของเขาก็น่าสนใจ เมื่อคดีที่เกิดขึ้น เหมือนเป็นพหรมลิขิต ให้ทั้งคู่ได้มาเจอกันด้วย หนังแอบมี ความมุ้งมิ้งเล็กๆ อยู่ พร้อมกับ ความระแวง ว่าเราจะโดนหลอก ไปพร้อมกับพระเอกด้วยหรือไม่ครับ ซึ่งตัวนางเอกก็มีเสน่ห์จริงๆ ตาโต น่ารักมากๆ ไม่แปลกที่บทในเรื่องนี้จะถูกวางไว้ว่าเสน่ห์ของเธอก็เป็นตัวสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในครอบครัวนี้จนใครๆ ก็หวาดกลัวไปตามๆกัน
เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวสืบสวนแบบฝรั่ง แต่เปลี่ยนรสชาติมาเป็นอินเดีย ซึ่งก็ถือว่าทำได้ดีกว่าหนัง Original Netflix โดยทั่วไปมาก แม้ไม่ถึงกับดีเลิศ แต่ก็ถือว่าดีพอควรค่าแก่การดูเลยครับ
เด็กอัจฉริยะลวงโลกจากความหวังดีของพ่อ 2ตัวเรื่องหลักจะเกี่ยวพันกับนายจ้างของพระเอกที่กำลังพยายามขอทุนรัฐบาลส่งยานขึ้นไปชั้นบรรยากาศของโลก เพื่อเก็บตัวอย่างมาหาสิ่งมีชีวิตที่ลอยอยู่ในอวกาศ ซึ่งก็ทำให้เขาได้รู้เรื่องราวสกปรกเบื้องหลังของวงการวิทยาศาสตร์ และก็นำมันมาใช้เป็นข้ออ้างให้เชื่อว่าทำสิ่งที่ถูกต้อง แบบเดียวกันกับการปั้นลูกชายของตัวเองขึ้นมาลวงโลกเช่นกัน และก็เป็นเรื่องราวการหักหลังและแก้แค้นของทั้งคู่ในช่วงหลัง ที่ต่างล่วงรู้ความลับของกันและกัน แต่ก็ต้องจำยอมปิดบังไว้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
ในส่วนการเมือง จะเป็นเรื่องราว การใช้ลูกพระเอก เป็นเครื่องมือ ให้นักการเมือง เข้ามาสร้างผลประดยชน์ ในโครงการตึกระฟ้า ในชุมชนเพื่อไม่ให้มีการต่อต้าน เพราะอาทิกลายเป็นผู้นำที่คนในชุมชนเชื่อฟัง แม้จะเป็นแค่เด็ก 10 ขวบ ซึ่งก็ผ่านการชักใยของพ่อที่อยู่เบื้องหลัง และก็กลายเป็นยิ่งสร้างความเชื่อผิดๆ ให้เขาคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ถูกเข้าไปอีก ในเมื่อเขาเอาความเจริญเข้ามาให้ชุมชนแห่งนี้ได้สำเร็จ ผ่านการปั้นน้ำเป็นตัวให้ลูกชายพูดตามที่เขาร่างสคิปต์ไว้จนดูความคิดยิ่งใหญ่เกินเด็ก
รีวิว Raat Akeli Hai สปอยเนื้อหา
แต่จุดกำเนิดของเรื่องจริงๆ คือการศึกษา ที่พระเอกพยายามเอาลูกเข้าเรียนโรงเรียนดีๆ ตามระบบแล้วแต่กลับถูกกีดกันจากศาสนาที่ไม่ได้นับถือคริสต์ ซึ่งโรงเรียนที่สอนเด็กด้วยภาษาอังกฤษมักจะเป็นโรงเรียนคริสต์ อีกทั้งชนชั้นวรรณะของครอบครัวก็ทำให้โรงเรียนปฏิเสธการรับเข้าเรียนในตอนแรก จนกลายเป็นตัวพระเอกต้องเลือกเส้นทางการสร้างเรื่องโกหกให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดีๆ แต่ก็กลายเป็นยิ่งถลำลึกกับความสำเร็จจอมปลอมนี้มากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ทำร้ายลูกในที่สุด ซึ่งบทสรุปท้ายเรื่องตรงนี้หดหู่มาก
เรื่องเปิดมา เป็นปริศนาตาม ชื่อเรื่องไทย ฆาตกรรม ในคืนเปลี่ยว เป็นเหตุการณ์ คดีฆาตกรรม ที่อำพราง ที่ว่าชนแล้วหนี แล้วเรื่องก็ตัดผ่านมาใครก็ตามจับฆาตกรตัวจริง ไม่ได้ กินเวลาไปถึง 5 ปี เมื่อสารวัตร “ชาฏิล ยาดาฟ” เข้าทำการสืบสวน คดีฆาตกรรม มหาเศรษฐี ที่ตายปริศนา ในห้องนอนตัวเอง โดยทุกคน ในครอบครัว ต่างไม่มีใครรู้เห็น เหตุการณ์สักคน แต่ทุกคนสงสัยนายหญิงคนใหม่ของบ้านที่เป็นอดีตเมียน้อย และได้รับมรดกทั้งหมดจากการตายในครั้งนี้ แต่สารวัตรชาฏิลกลับตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ และไม่เชื่อว่าเธอคือฆาตกร
ตัวเรื่องมี 2 คดีฆาตกรรมที่เปิดมาตอนแรก 5 ปีก่อนให้คนสงสัยว่าเกี่ยวโยงมายังคดีในปัจจุบันได้อย่างไร ซึ่งการสืบสวนของพระเอกจะเริ่มจากปัจจุบันก่อนค่อยๆ พบว่าอดีตคดีชนแล้วหนีเมื่อ 5 ปีก่อนกลับมีส่วนในคดีฆาตกรรมหาเศรษฐีในตอนนี้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเรื่องดำเนินไป แบบน่าติดตามเรื่อยๆ อาจจะไม่มี ฉากบู้ ให้ลุ้นอะไรมาก เพราะเรื่องเป็น แนวแบบนักสืบฝรั่ง แบบลึกลับๆ อย่างที่บอกไป ตัวพระเอกก็พยายามไล่ต้อนคนในบ้านทีละคนๆ หาสมมุติฐานเชื่อมโยงว่าใครเป็นฆาตกร นอกจากนายหญิงที่พระเอกไม่เชื่อว่าเธอเป็น เป็นอะไรนั้น ติดตามเอาเองที่ ดูหนังออนไลน์4k
ซึ่งพอสุดท้ายเรื่องราวทั้งหมดก็จะไปเฉลยแบบเดียวกับ Knives Out หรือพวกนิยาย ฆาตกรรม มรดกเลือด แก่งแย่งชิงดี หวังสมบัติ อะไรประมาณนั้น คือทุกคนมารวมตัวกันในบ้านที่เกิดเหตุฆาตกรรม และตัวพระเอกเองก็จะปะติดปะต่อเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้สมาชิกในบ้านฟัง เพื่อบีบให้ฆาตกรออกมา ก่อนที่จะหักล้างโต้แย้งไล่ให้จนมุมด้วยสมมุติฐาน+หลักฐาน ซึ่งตัวเรื่องนี้ก็มาแบบเดียวกันเป๊ะ แต่ว่าอาจจะไม่ว้าวสักเท่าไหร่ เพราะเรื่องที่เฉลยออกมาค่อนข้างธรรมดาเมื่อเทียบกับระหว่างทางที่ดูซับซ้อนกว่าเยอะ
นอกจากนี้เรื่องยังเอาบริบทด้านขนบธรรมเนียมประเพณีของอินเดียมาใช้โยงกับคดีฆาตกรรมได้ลงตัว อย่างฆาตกรยิงปืนตอนงานแต่งงานอินเดียที่มีแต่คนยิงปืนขึ้นฟ้าแสดงความยินดีกันอยู่แล้ว ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงที่เกิดขึ้น หรือการแต่งงานกับเด็กของอินเดีย การขายลูกสาวกิน ซึ่งอะไรแบบนี้จะไม่มีในหนังฝรั่งแน่นอน ก็เหมือนเราได้มาดูแนวหนังนักสืบฝรั่งในเวอร์ชั่นอินเดียดูบ้างนั่นเองครับ
จุดเด่นจุดด้อยของเรื่องนี้
เรื่องนี้ ผลงานคัดเลือกนักแสดงของ Trehan ได้แก่ Maqbool, Omkara, Fukrey, Dedh Ishqiya, Raees เป็นต้น เขายังเป็นผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์โดย Vishal Bhardwaj และ Abhishek Chaubey อิทธิพลของผู้สร้างภาพยนตร์เหล่านี้ที่มีต่อสไตล์การกำกับของเขานั้นชัดเจน
ภาพยนตร์ของเขามีความจริงใจในเรื่องและประเภท อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาขาดในการเป็นผู้กำกับครั้งแรกคือการใส่ความกระตือรือล้นที่ Chaubey หรือ Bhardwaj นำมาสู่โต๊ะอาหาร องค์ประกอบของความกลัว ความเร่งด่วน พลังงานทางประสาท และความตึงเครียด เป็นสิ่งจำเป็นในความลึกลับของอาชญากรรม ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 29 นาที ภาพยนตร์เรื่องนี้ปราศจากปัจจัยที่ทำให้ตื่นเต้นเร้าใจ รู้สึกยืดเยื้อและเหนื่อยล้า
บทภาพยนตร์โดย สมิตา ซิงห์ (Sacred Games) ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบทกวีของอกาธา คริสตี้ และเวอร์ชันฝึกหัดของ Knives Out (2019) ที่สร้างขึ้นอย่างน่าทึ่ง นาวาซเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นี่
ซึ่งแสดงทักษะการหักล้างของนักสืบขณะต่อสู้กับระบบทุจริตและศัตรูตัวฉกาจที่ไม่รู้จักของเขา แม้ว่าเรื่องราวจะให้คะแนนได้ดีในปัจจัยที่คาดเดาไม่ได้ แต่แทร็กความรักก็รู้สึกเหมือนเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจโดยไม่จำเป็น
ติดอาวุธที่ค่อยๆ ลุกไหม้ขึ้นทีละน้อย ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่พูดถึงหัวข้อที่อยู่ในมือ อย่างไรก็ตาม จุดสุดยอดรู้สึกค่อนข้างกะทันหันและสะดวก ตัวละครที่เกี่ยวข้องมีเนื้อหาไม่เพียงพอสำหรับคุณที่จะรู้สึกลงทุนในตัวพวกเขาหรือแรงจูงใจที่ซ่อนอยู่ การร่างตัวละครที่ดีขึ้น
บทภาพยนตร์ที่กระชับจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีส่วนร่วมมากขึ้น ความปรารถนาของคุณที่จะรู้ความจริงก่อให้เกิดความลึกลับของอาชญากรรม ที่นี่คุณต้องการจับตัวผู้กระทำความผิด แต่ห่วงโซ่ของเหตุการณ์ที่ประกอบด้วยการสืบสวนไม่ได้ทำให้คุณอยู่บนขอบของที่นั่งของคุณ
แต่เรื่องก็ไม่ได้จบแบบเศร้า ยังหาหนทางให้ทั้งพระเอกและลูกได้มีโอกาสกลับมามีชีวิตปกติได้อีกครั้ง โดยเป็นทางออกที่ลงตัวและก็มีเหตุผลลึกซึ้งถึงอดีตพ่อแม่ของพระเอกอีกทีว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจสร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เป็นเหมือนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ซึ่งเป็นจุดที่เรื่องราวนำเสนอความเป็นจริงของสังคมสีเทาๆ ถ้าอยากเอาตัวรอดในระบบที่กดขี่คนได้ก็ต้องทำแบบนี้ ซึ่งเทียบกับเรื่องราวโกหกของพระเอกก็ดูเป็นเรื่องปกติไปเลย
ติดปัญหาเดียวที่ผมคาใจเลยสำหรับเรื่องนี้ คือหนังมันไม่ยอมจบสักที ดันพยายามที่จะลากยื้อเนื้อเรื่อง ไปเรื่อยๆ เหมือนต้องการให้มีเรื่องกรรมสนองคืนกลับไปหาพ่อ ซึ่งจริงๆ ไม่ต้องมีฉากนี้เลยจะดีกว่า ตัวเรื่องก็สามารถจบลงตัวได้อยู่แล้วครับ ใครที่คิดจะดูลองดูเอาเลยครับ ว่านี่ใช่แนวของคุณรึเปล่า
หากเพื่อนชอบหนังอาชญากรรม ลึกลับซ่อนเงื่อน ที่เว็บนี้ ยังมีรีวิวหนังอาชญากรรมอีกเพียบ ที่ รีวิวหนังอาชญากรรม