รีวิว บอสฉันขยันเชือด
หนังเรื่อง My Boss is a Serial Killer บอสฉันขยันเชือด เป็นหนังไทยอีกหนึ่งเรื่องที่เราคิดว่า พล็อตเรื่องและแนวของหนังได้ดีมีความแปลกใหม่และน่าสนใจมาก ซึ่งเราจะไม่ค่อยเห้นหนังในประเทศไทย โดยหนังมีการหยิบยกทฤษฎีทางจิตวิทยาเข้ามาพูดถึง และ การดำเนินเรื่อง การวางไทม์ไลน์หรือนักแสดงภายในเรื่อง ทุกอย่างออกมาในทางที่ค่อนข้างดี แต่การนำเสนอเรื่องราวนี้เรียกว่าขาดมิติหรือลูกเล่นภายในเรื่องสุด ๆ ไม่มีจุดไคลแมกซ์หรือจุดพีคทำให้คนดูรู้สึกเบื่อไม่ตื่นเต้น อีกทั้งในบางจุดของหนังก็รู้สึกถึงความไม่ค่อยสมจริงเหมือนจับนั้นผสมนี่ ยำใส่กันจนคนดูที่ตามไม่ทันอาจจะงง แต่ก็ได้รวทฉากแอ๊คชั่นปนตลกอยู่ภายมในเรื่องราวเช่นเดียวกัน
หนังสืบสวนสอบสวนปนคอมเมดี้เรื่องนี้ ที่เป็นเรื่องราวของแก๊งหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่อยู่ ๆ ก็ไปแอบล่วงรู้ความลับของเจ้านายตนเอง ว่าบอสใหญ่ของพวกเขาเคยมีอดีตเป็นฆาตกรโรคจิตต่อเนื่อง แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อออฟฟิศที่เคยอยู่ไม่ใช่ที่ปลอดภัยอีกต่อไป ปฏิบัติการขุดคุ้ยอดีตและสืบหาความลับอันแสนระทึกที่มาพร้อมกับความสนุกและเสียงหัวเราะจึงได้เกิดขึ้น
ข้อมูลหนังและกองทัพนักแสดงสุดดุเดือด
นักแสดงนำ ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา รับบท ต้น บอสของเราหรือพระเอกในเรื่องนี้
มุกดา นรินทร์รักษ์ รับบท เมษา
โบกี้ หรือ ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร
พอวิไล อภิรัชฎาพร รับบท หลิน
หลิน แสดงโดย ผักกาด-พอวิไล อภิรัชฎาพร
ดร.อัง แสดงโดย โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน
ปั่น แสดงโดย เผือก-พงศธร จงวิลาส
โจ๊ก แสดงโดย นอท-สัณหณัฐ ทิราชีพ
ชื่อเรื่อง : My Boss is a Serial Killer (บอสฉันขยันเชือด)
ประเภท : ตลก / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ : ภูวนิตย์ ผลดี
ความยาว : 1 ชั่วโมง 52 นาที
ช่องทางรับชม : Netflix / ดูหนัง
รีวิว บอสฉันขยันเชือด เนื้อหาต่อจากนี้จะมีการสปอยนะครับ
เรื่องราวเกิดขึ้นจากแก๊งหนุ่มสาวชาวออฟฟิศอย่าง เมษา หลิน และโบกี้ที่อยู่ ๆ ก็บังเอิญไปเจอกับเรื่องราวที่พวกเขาไม่คาดคิดอย่าง บอสของเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ทำให้พวกเธอทั้งสาทต่างก็สืบล้าหาความจริงว่าจริง ๆ แล้วเมื่อหลายปีก่อนที่เกิดคดีฆาตกรรมมีความเป็นมา เบาะแสหรือหลักฐานอะไรที่มายืนยันสิ่งนี้ โดยพวกเธอก็พบเข้ากับดอกเตอร์อัง ผู้ที่สืบสวนและโยงค้นหาความจริงในเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน เรื่องราวจะเป็นอย่างไร บอสของพวกเธอจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องจริง ๆ หรือไม่ ก็ต้องไปติดตามกันใน My Boss is a Serial Killer บอสฉันขยันเชือด
รับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์
หลายปีต่อมา ต้น ประธานบริษัทกำลังนั่งประชุมกับพวกผู้บริหาร ซึ่งปั่น ผ่านการตลาดได้เสนอไอเดียโปรเจคหนึ่งขึ้นมา ต้นจึงบอกให้ไปหาคนหนุ่มสาวไฟแรงที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ เข้ามาร่วมทำงาน เพื่อจะได้สื่อสารและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่าย
โบกี้ เมษา และหลิน มายังห้องประชุม ซึ่งปั่นเล่าถึงโปรเจคที่บอสต้นให้มาทำ คือการคิดแผนงานสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ ทั้ง 3 จึงถามว่า มีคนอายุต่ำกว่า 30 ปี แค่พวกเราหรอ ทันใดนั้น โจ๊ก พนักงานหนุ่มก็เข้ามา ทั้งหมดจึงนั่งประชุมกัน แต่การประชุมก็ไม่ได้ไอเดียอะไร จึงยกเลิกประชุมไป
ในเย็นวันนั้น โจ๊กได้ทำ สายยูเอสบี หาย จึงเดินมาสอบถามเมษาที่กำลังวุ่นวายกับการเก็บของว่าเห็น สายยูเอสบี ของเขาบ้างไหมที่เป็นรูปหมาอะ เมื่อเมษาบอกว่าไม่เจอ แต่เมื่อโจ๊กเดินออกไป เธอกลับพบสายรูปหมาตกอยู่ เธอจึงเดินเอาไปให้โจ๊ก โจ๊กจึงกล่าวขอบคุณ ฉากนี้บางทีก็ทำให้แอบงงไปเล็กน้อย
ขณะที่เมษากำลังจะกลับบ้าน หลินเรียกเธอมาดูอะไรบางอย่าง หลินบอกว่า เธอเก็บ USB ได้ น่าจะเป็นของโจ๊ก หลินจึงเปิดให้ดูคลิปข้างใน เป็นคลิปข่าวการตายของพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง ซึ่งบอกว่า เป็นฝีมือของบอสต้น โดยมีอัง เป็นคนที่กำลังสืบสวนเรื่องนี้ เมื่อทั้ง 2 ดูจบ บอสต้นเดินเข้ามาพอดี และถามอย่างมีลับลมคมในว่า กำลังดูอะไรกันครับ ??
เมษาตกใจจึงตอบไปว่า หาอะไรดูเรื่อยเปื่อย บอสต้นก็ไม่ได้ว่าอะไร เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เมษาและหลินกำลังเดินไปที่รถ แต่ทั้ง 2 เห็นบอสต้นกำลังต่อว่าโจ๊ก โจ๊กก็ตะโกนสวนกลับ ทำให้เกิดการต่อว่ากันไปมา หลินและเมษาจึงกลับเข้ามาในออฟฟิศ แล้วหาทางอื่นกลับบ้าน ในคืนนั้นเอง เมษาเปิดดูเพจของอัง คนที่เขียนเรื่องของฆาตกรที่ตามล่าสาวออฟฟิศ ซึ่งเธอเริ่มเชื่อขึ้นมาแล้ว คืนนั้นเอง โบกี้ไปกินเลี้ยงกับทางบริษัท ซึ่งเธอออกมายืนเล่นเกมส์ตามล่าฆาตกร บอสต้นเดินเข้าและถามว่า คุณเล่นเกมส์นี้ด้วยเหรอ โบกี้บอกว่า เธอเล่นไม่ผ่านด่านซักที บอสต้นจึงบอกว่า เราต้องคิดว่าเป็นฆาตกร แล้วจะจัดการเหยื่ออย่างไร ทำให้โบกี้รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ที่ ดูหนังฟรี
เรื่องราวของพวกเขาน่าสนใจทำให้คนดูอย่างเราตราตรึงได้ไหม
เรื่องนี้เป็นหนังไทยที่ทำออกมาได้ค่อยข้างลงตัวเลยครับ แต่การดำเนินเรื่องมียืดๆออกทะเลกันไปบ้างในช่วงกลางๆ แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร ถ้าดูแบบไม่จริงจังหรือไม่ได้ซีเรียสเนื้อหาอะไรขนาดนั้นก็จะถือว่าดูได้อย่างเพลินๆพอสมควรเลยนะครับ ส่วนตัวชอบในความหักมุมของหนังที่แบบคิดไม่ถึงกันเลยทีเดียว ไม่เหมือนในตัวอย่างหนังที่เราได้ชมกันก่อนหน้านี้ก่อนที่จะตัวหนังจะออกฉาย ส่วนช่วงไคแม็กซ์ของหนังเรื่องนี้บอกเลยไม่ควรพลาด ทั้งมันส์ ทั้งสะใจ ลุ้นเอาใจช่วยแบบลืมตัวกันเลยทีเดียวครับ เอาจริงๆไม่อยากสปอยเนื้อเรื่องเยอะ อยากให้ไปลุ้นกันดีกว่าใครจะเป็นฆาตกรสาวออฟฟิศตัวจริง ส่วนตัวให้ผ่านครับ แนะนำให้ลองไปดูเลยสำหรับหนังเรื่องนี้
ถือว่าเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่น่าสนใจตั้งแต่ตัวอย่างออกมาแล้ว และพล็อตเรื่องเล่าถึงเรื่องราวของพนักงานออฟฟิศ
ที่สงสัยว่าบอสของพวกเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือไม่ แถมหนังยังมีนักแสดงที่น่าสนใจมากมาย แถมหนังยังพยายามที่จะใส่มุกมากมายให้ดูเว่อวัง แต่ก็เพื่อปูทางไปคลายปมในตอนจบ เอาง่ายๆคือมีความน่าสนใจทุกจุด คือหนังนี้จะออกแนวแบบหนัง สืบสวน ซ่อนเงื่อน นองเลือด ที่ต้องบอกเลยว่าสนุกและพีคแน่นอน และต้องบอกเลยว่าหนังมีหักมุมที่แบบต้องบอกว่าอะไรกันครับเนี่ยกันเลยทีเดียว ตอนจบมีเซอร์ไพรส์นิดๆ คืออะไรต้องไปดูกันเองนะครับ
อีกทั้งในเรื่องนี้จะต้องมีพาร์ทของการสืบสวนแต่ไม่มีความเข้มข้นไปไม่สุด ออกไปแนวครึ่ง ๆ กลาง ๆ มีช่องว่างเยอะเกิน ทำให้ดูไปหงุดหงิดไป กลับกลายเป็นหนังสืบสวน ระทึกขวัญก็ไม่ใช่ หรือจะไปใน แนวตลกคอมเมดี้ ก็ไม่เชิง เพราะหนังเรื่องนี้แทบมีมุขหรือฉากตลกที่น้อยมาก
ส่วนเรื่องที่ต้องชมในเรื่องนี้คงต้องพูดถึงคือฉากครับ ออฟฟิศบริษัทนกกระทาคู่ในหนัง เป็นที่รวมของบรรยากาศ แบบฉบับไทย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ต่างพบเจอกันเป็นปกติในที่ทำงาน ที่ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นราชการหรือเอกชน ตั้งแต่ช่องว่างระหว่างวัย คนรุ่นเก่าไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ ไลฟ์สไตล์ที่เหลื่อมล้ำ ระบบเส้นสาย การแบ่งพรรคเล่นพวก หรือการมอบหมายงานแบบจับฉ่ายสารพัดสิ่ง ซึ่งล้วนเป็นความเซ็งในชีวิตจริงของคนทำงานจำนวนมาก
เป็นความน่าสนใจมีที่มาจากเรื่องราวของภาพยนตร์ ของการยกเอาทุกประเด็นความเจ็บปวดในสังคมของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ในยุคสมัยนี้ มาตีแผ่และวิพากษ์อย่างตรงไปตรงมาและแคร์สังคม เรียกว่าช่วยปลดปล่อยความรู้สึกของหนุ่มสาวออฟฟิศในยุคสมัยนี้เลยครับ
บรรยากาศเหล่านี้ คือปัจจัยชั้นดีที่บั่นทอนคนทำงานรุ่นใหม่ ให้อ่อนล้ากับการทำภารกิจต่าง ๆ แค่พอให้ผ่าน ๆ ไป รวมทั้งทำให้โบกี้ซึ่งเป็นคู่ปรับอดีตคู่ซี้ ต้องคอยระมัดระวังตัวระหว่างร่วมงานกัน พนักงานรุ่นกลางอย่างปั่นจึงต้องบริหารจัดการความคิดและพฤติกรรมของผู้ร่วมงานรอบด้าน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของตนให้สามารถเดินไปข้างหน้า
อุปสรรคต่าง ๆ ในที่ทำงาน ถูกเสริมแรงทางลบด้วยบริบทของยุคสมัยอีกหลายแง่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีซึ่งเอื้อให้ใครก็ได้สามารถตั้งตนเป็นสื่อ เพื่อเผยแพร่คอนเทนต์อะไรก็ได้ตามใจนึกสู่คนวงกว้างอย่างปราศจากกลไกกลั่นกรอง หรืออารมณ์อึดอัดต่อเศรษฐานะที่เหลื่อมล้ำ จนผู้คนพร้อมที่จะสาดความรู้สึกเกลียดชังใส่กันได้อย่างง่ายดาย
ไม่ว่าคุณจะเป็นบอส เป็นพนักงาน หรือเป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างพนักงานกับบอส คุณน่าจะได้อะไรกลับไปขบคิดหลายอย่าง จากภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่น่าจะกลับไปคิดต่อที่บ้านว่า จริง ๆ แล้ว ใครกำลังเชือดใคร และใครกำลังถูกใครเชือดอยู่กันแน่
ทั้งออฟฟิศในหนังเรื่องนี้ หรือออฟฟิศในชีวิตจริงของตัวคุณเองก็ตาม
หากชอบบทความนี้ แล้วสนใจติดตามรีวิวหนัง สปอยหนัง เรื่องอื่นๆได้ที่ สปอยหนังดี