The Last Duel
คดีอาชญากรรมที่เคยเกิดขึ้นจริงกับเรื่อง The Last Duel (2021) ดวลชีวิต ลิขิตชะตาเป็นผลงานการกำกับของ ริดลีย์ สก็อตต์ ที่ถ่ายทอดเรื่องราว การทรยศและล้างแค้นต่อความโหดร้ายและการกดขี่ผู้หญิงในศตวรรษที่ 14 ณ
ประเทศฝรั่งเศส The Last Duel เรื่องราวของอัศวินชาวฝรั่งเศส ฌอง เดอ คาร์รูจส์ ที่ได้มีคดีพิพาทกับสหายรัก ฌาคส์ เลอ กริส
จนนำไปสู่การท้าดวลแบบตัวต่อตัวของสองอัศวินผู้กล้า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อมาการีต กล่าวหาว่าเลอ กรีส ได้ล่วงเกินทางเพศเธอ ระหว่างที่เดอ คาร์รูจน์ ไปรบ เมื่อเรื่องขึ้นสู่ชั้นศาล แต่ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันความจริงได้นอกจากคำกล่าวอ้างของมาการีต จึงต้องตัดสินความบริสุทธิ์ด้วยการดวลกันจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่งต่อหน้ากษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 6 ของฝรั่งเศส หากเดอ คาร์รูจน์ พ่ายแพ้และเสียชีวิต ดูหนังออนไลน์ฟรี
หนังไซไฟในตำนานแล้ว หนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงที่ยังอยู่ในใจคอหนังหลายคนคงหนีไม่พ้น ‘The Gladiator’ เพราะนอกจากจะเป็นหนังพีเรียดโรมันเรื่องแรกของสก็อตต์ มันยังเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จทั้งในตารางหนังทำเงินและบนเวทีออสการ์ในฐานะภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเพียงเรื่องเดียวและทำให้เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับหนังแนวนี้อีก 2-3 เรื่องแต่ทุกเรื่องล้วนมีจุดศูนย์กลางที่ผู้ชายเป็นหลัก ดูหนังฟรี
The Last Duel เนื้อเรื่องและโครงสร้างหนัง
เรื่องราวนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง และได้ถูกเขียนเป็นนวนิยาย เรื่อง “The Last Duel” โดยนักเขียนอีริก เจเกอร์ นอกจากนี้ยังได้นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์อย่างแมต เดม่อน และนักแสดงผู้ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึงสองครั้งอย่างอดัม ไดรเวอร์ รับบทเป็นอัศวินผู้ซึ่งต้องเข้าร่วมการไตรสวนด้วยการประลองกระทั่งฝ่ายใตฝ่ายหนึ่งถึงแก่ชีวิต จากคดีอาชญากรรมที่เคยเกิดขึ้นจริง นำไปสู่การไต่สวนคดีด้วยการประลอง
เป็นผลงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดจากผู้กำกับทำเงินชาวอังกฤษวัย 84 ริดลี่ย์ สก็อต ผู้เข้าชิง 4 รางวัลออสการ์จากเรื่อง เทลม่าแอนด์หลุยส์ แกลดิเอเตอร์ แบล็คฮอล์กดาวน์ และ เดอะมาร์เชี่ยน เป็นการกลับมาเขียนบทร่วมกันอีกครั้งของแมท เดม่อน และเบ็น แอฟเฟล็ค
แมท แสดงเป็นอัศวินตัวเอกของเรื่อง ส่วนเบ็นเป็นตัวประกอบ แสดงเป็นเจ้าเมืองอารมณ์ประมาณนายก อบจ.ในปัจจุบัน อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับแมท ซึ่งอันที่จริงตัวเอกก็จะเป็นสองคนนี้แหละแต่ดูเหมือนเบนจะติดงานหลายกองถ่ายก็เลยไปจ้าง อดัม ไดรฟเวอร์ ที่เคยรับบทลูกทรพีฆ่าพ่อฮานโซโลในสตาร์วอร์สมาแสดงแทน ดูหนังออนไลน์4k
หนังสงครามเรื่องนี้ มีศูนย์กลางและที่มาจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสถึงคดีสุดท้ายที่ตัดสินด้วยการดวลกันถึงชีวิตในปี 1386 ระหว่าง ฌอง เดอ คารูจส์ (รับบทโดยแมต เดมอน Matt Damon) กับ ฌาร์ค เลอ กรีส์
รับบทโดย อดัม ไดรเวอร์ Adam Driver 2อัศวินในรัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 6 (รับบทโดย อเล็กซ์ ลอว์เธอร์ Alex Lawther) ที่ท่ามกลางไฟสงครามระอุกลับมีคดีชิงรักหักสวาทระหว่างพวกเขาเมื่อเลอ กรีส์ ถูกกล่าวหาว่าข่มขืน
แม่นางมาเกอร์ริต เดอ คารูจส์ (รับบทโดย โจดี โคเมอร์ Jodie Comer) จนศาลตัดสินด้วยการให้ทั้งคู่ได้แลกชีวิตพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตาม
รายละเอียดภาพยนตร์
บอกเล่า “มุมมอง” ของเหตุการณ์เพื่อขับเน้นสารที่สำคัญมากนั่นคือสิทธิสตรีในประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของฝรั่งเศส โดยบทภาพยนตร์ที่แมต เดมอนกับเบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) สองนักแสดงในหนังมาร่วมเขียนกับ นิโคล โฮลอฟเซเนอร์ (Nicole Holofcener) เลือกใช้วิถีของ ‘ราโชมอน เอฟเฟกต์’
คือการเล่าเรื่องราวเหตุการณ์จาก 3 มุมมองโดยเริ่มจากฝั่งผู้ชาย 2 คนแล้วลงท้ายที่มุมมองของมาเกอร์ริตที่หนังเคลมและให้น้ำหนักมากกว่าเหตุการณ์ในมุมมองของ 2 บุรุษอย่างชัดเจน
แม้จะยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะการเล่าเรื่องแบบ ‘ราโชมอน เอฟเฟกต์’ เคยถูกหยิบไปใช้จนเฝือตั้งแต่หนังดราม่าทหารเครื่องบินตกใน ‘Courage Under Fire’ ของผู้กำกับเอ็ดเวิร์ด ชวิก (Edward Schwick) ที่เป็นหัวหอกให้หนังอเมริกันได้หยิบวิธีเล่าของ ‘Rashomon’ หนังญี่ปุ่นปี 1950 เว็บดูหนังฟรี
ของ อากิระ คุโรซาวา ไปใช้กันแพร่หลายหรือจะเป็นการข้ามฟากไปที่ประเทศจีนกับ ‘Hero’ หนังมิือสังหารที่ซ่อนแผนฆ่าฉินอ๋องของผู้กำกับจางอี้โหมวที่ใช้สีสันมาแบ่งโทนการเล่าเรื่องได้อย่างวิจิตรพิศดาร
แต่สำหรับ ‘หนังเรื่องนี้ แม้จะเล่าโดยการแบ่งด้วยไตเติลแต่ละมุมมองให้คล้ายกับเราอ่านหนังสือ สิ่งที่ต้องยอมรับว่าเป็นความเจนมือของริดลีย์ สก็อตต์จริง ๆ คือการ ‘เลือกเล่า’ ที่เขาแม่นยำในการเล่าเรื่องทั้งการนำเสนอข้อมูลจากคนละฝั่งมุมมองได้อย่างพอดิบพอดีครบถ้วนและเปี่ยมอารมณ์ทั้งงานกำกับและการลำดับภาพที่เป๊ะมากไม่มีสะดุดเลย สปอยหนังบู้
คือการรู้ว่าหนังมันจะสื่อประเด็นอะไรซึ่งแม้เราจะคุ้นเคยกับโครงสร้างแบบราโชมอน เอฟเฟกต์ดีว่ามุมมองสุดท้ายคือความจริง แต่ด้วยเนื้อหาที่ซับซ้อนเพราะไม่เพียงแค่มันจะนำเสนอ ‘เรื่องจากฝั่งมาเกอร์ริต’ แต่มันยังต้องทำหน้าที่บอกเล่าประเด็นการถูกล่วงละเมิดทางเพศและความด้อยค่าของผู้หญิงในสังคมยุคนั้น สก็อตต์สามารถนำเสนอเหตุการณ์ในมุมมองสุดท้ายออกมาได้บีบอารมณ์ตลอดทุกนาทียันเฟรมสุดท้ายของหนังที่เหมือนฉุดคอเสื้อคนดูมาถามว่าการดวลครั้งนี้มีผู้ชนะจริง ๆ หรือ
ขณะนี้ทำเงินทั่วโลกไปเพียง 23.5 ล้าน $ เท่ากับขาดทุนย่อยยับแม้ว่าจะได้รับการชื่นชมมากขนาดนี้
เรื่องราวในหนังพาย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ยุคจักรๆ วงศ์ ค.ศ.1835 สมัยฝรั่งเศสเป็นนักล่าอาณานิคม ตัวละครทั้งหมดเป็นคนฝรั่งเศสแต่ในหนังพูดภาษาอังกฤษและใช้นักแสดงฮอลลีวูด แมทและอดัมเป็นขุนนางที่ขึ้นตรงต่อเจ้าเมืองเบน แมทเป็นฝ่ายออกรบ
อดัมเป็นฝ่ายประจบสอพลอ อดัมแอบลักลอบได้เสียกับเมียแมทที่ไปออกรบ แมทกลับมาเมียฟ้อง ทั้งคู่ต้องการความยุติธรรมและไม่ไว้วางใจให้เบนตัดสิน เรื่องจึงไปถึงกษัตริย์ที่มีลักษณะเหมือนเด็กแว๊น (พล็อตคล้ายขุนช้างขุนแผนมากเลยนะเราว่า) พระราชาแว๊นๆ ตัดสินให้มีการดวลกัน ถ้าใครชนะคือผู้นั้นเป็นฝ่ายถูก เป็นที่มาของต้นเรื่องท้ายเรื่องและชื่อเรื่องว่า THE LAST DUAL ซึ่งเป็นการดวลกันครั้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการตามประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสในสมัยที่ยังมีพระเจ้าแผ่นดิน ใครจะชนะ เราไม่สปอยล์ครับ แต่คงเดาไม่ยาก อยากรู้ไปดูเองหรือเปิดประวัติศาสตร์ดูได้
ทุกอย่างทำดีแล้ว ระดับผู้กำกับ ดารา และคนเขียนบทเกรดเอขนาดนี้ แต่สิ่งเดียวที่ขัดใจคือทำไมต้องเดินเรื่อง สามมุมมอง แบบราโชมอน ซึ่งการเล่าเรื่อง แต่ละครั้ง ในเรื่องนี้มันก็แทบ ไม่ได้แตกต่างกันเลย เหมือนกับ ทำเรื่องสั้น ให้มันยาวขึ้นสามเท่า นอกเหนือจาก เรื่องเล่าฉากประลองก็ซ้ำกันหัวท้ายอีก มีแค่ช่วงตอนจบเท่านั้นที่ให้ดูครั้งเดียว หรืออาจเป็นเพราะถ้าเดินเรื่องรอบเดียวอาจทำให้หนังสั้นเกินไปเพราะที่จริงฉากที่ไม่จำเป็นต่อเรื่องแต่ต้องเล่นซ้ำไปซ้ำมาก็มีอยู่ไม่น้อย
อย่างไรก็ตามต้องชื่นชมว่าผู้กำกับหยิบทั้งสองอย่างนี้มาเล่าเรื่องได้อย่างแข็งแรง จนทำให้รู้สึกว่า แม้จะไม่ใช่งานที่มีความใหม่ แต่ก็เป็นงานที่น่าสนใจ และด้วยความที่หนังมีโครงสร้างของงาน (บท) ที่แน่นและแข็งแรงอย่างมาก ก็ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความเนี้ยบของหนัง โดยเฉพาะความหนักและความดุดันของเรื่อง จนอยากเชียร์ให้เข้าชิงออสการ์เลย สาเหตุหนึ่งที่ทำให้โครงสร้างเรื่องออกมาแข็งแรงมาก ผมมองว่า หนังรู้ว่าตัวเองควรจะเดินไปทางไหนแบบไม่ฝืน (และไม่ทะเยอทะยานแบบเวอร์วังเกินตัว) รวมถึงการใส่ตรรกะของหนังอย่างสมเหตุสมผล จนกลายเป็นงานที่แกร่งและเนี้ยบ
นอกจากนี้ก็จะมีประเด็นทางด้านการเมือง / อำนาจ / สงครามภายในดินแดน ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ภายในเรื่อง ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผลเ มื่อคนใช้เหตุผลกันน้อย และมุ่งใช้กำลังใน การแก้ปัญหากันมากกว่า ประเด็นสุดท้าย คงเป็นประเด็น เรื่องสันดานมนุษย์ โดยเฉพาะเรื่องราคะ ที่ไม่ว่ายุคไหน ก็ก่อให้เกิดปัญหา กับมนุษย์ได้ หากไม่มีสติ ในการดำเนินชีวิต
ในส่วนของนักแสดง โดยรวมถือว่าแสดงได้สมบทบาททุกคน แต่ที่รู้สึกประทับใจเป็นพิเศษคงเป็น Adam Driver ที่มีพัฒนาการทางการแสดงดีมากเหลือเกิน โดยเฉพาะหากย้อนดูเทียบกับการแสดงที่เคยแสดงในไตรภาค Star Wars ก็ถือว่าเดินมาไกลมาก ส่วนในเรื่องโปรดักชั่น โลเคชั่น คอสตูม ขอบอกเลยว่าโคตรสมจริง ซาวน์ดนตรีดุดันระทึก ผสมกับมุมกล้องดีๆ อย่างซีนต่อสู้นี่สโลโมชั่นได้น่าสนใจ รีวิวหนังออนไลน์