รีวิว RED SPARROW

​เรื่องราวของ โดมินิก้า เอโกโรวา ถูกบังคับให้เข้ารับการฝึกฝนเพื่อเป็น สแปร์โรว์ นักล่อลวงสาวประจำกองกำลังรักษาความปลอดภัยรัสเซีย โดมินิก้าต้องเรียนรู้ที่จะใช้ร่างกายของเธอเป็นอาวุธ แต่ยังต้องดิ้นรนเพื่อรักษาความเป็นตัวเองไว้ ท่ามกลางการฝึกฝนที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ลงทุกที หญิงสาวค้นพบพลังของตนท่ามกลางระบบอันไม่เป็นธรรม ติดตามชมที่ ดูหนังออนไลน์

และได้กลายเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่แข็งแกร่งที่สุดจากการฝึกฝนนี้ เป้าหมายแรกของเธอคือ เนท นาร์ช  เจ้าหน้าที่ซีไอเอผู้รับผิดชอบหน่วยงานที่อ่อนไหวที่สุดอย่างหน่วยงานข่าวกรองสายลับรัสเซีย เมื่อเจ้าหน้าที่หนุ่มสาวทั้งสองจมดิ่งสู่วังวนแห่งความหลงใหลและหลอกลวง กระทบต่อทั้งหน้าที่การงาน ความจงรักภักดี และความมั่นคงของประเทศตน

ตอนดูตัวอย่างหนังและอ่านเรื่องย่อ สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวผมคือ นี่มันเรื่อง Naked Weapon ที่ Maggie Q เคยเล่นไว้เมื่อปี 2002 เวอร์ชั่นฮอลลีวู๊ดรึเปล่า เพราะด้วยเรื่องราวมันออกจะคล้ายกันมาก จะมีแตกต่างกันบ้างก็บางอย่าง เปลี่ยนจากสายลับฮ่องกงมาเป็นสายลับ CIA ที่ต้องแทรกซึมไปมาในองค์กรรัฐบาลของรัสเซีย ดูหนัง

เรื่องราวของ โดมินิก้า เอโกโรวา ถูกบังคับให้เข้ารับการฝึกฝนเพื่อเป็น สแปร์โรว์ นักล่อลวงสาวประจำกองกำลังรักษาความปลอดภัยรัสเซีย โดมินิก้าต้องเรียนรู้ที่จะใช้ร่างกายของเธอเป็นอาวุธ  ท่ามกลางการฝึกฝนที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ลงทุกที เป้าหมายแรกของเธอคือ เนท นาร์ช เจ้าหน้าที่ซีไอเอหน่วยงานข่าวกรองสายลับรัสเซีย เมื่อเจ้าหน้าที่หนุ่มสาวทั้งสองจมดิ่งสู่วังวนแห่งความหลงใหลและหลอกลวง กระทบต่อทั้งหน้าที่การงาน ความจงรักภักดี และความมั่นคงของประเทศตน

ภาพยนต์ Red Sparrow ( เร้ด สแปร์โรว์ : หญิงร้อนพิฆาต ) ภาพยนตร์สายลับที่สร้างจากนวนิยายของ เจสัน แม็ทธิวส์ เจ้าหน้าที่ซีไอเอจริงๆ ผลงานของสุดยอดผู้กำกับอย่าง ฟรานซิส ลอว์เรนซ์จากผู้กำกับ The Hunger Gameและเขียนบทโดย เจสัน แมตธิวส์นี่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งระหว่าง เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ กับ ฟรานซิส หลังจากที่พวกเขาเคยสร้างความโด่งดังระดับโลกให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Game มาแล้ว

เมื่อเข้าสู่องก์ที่ 2 โดมินิกา ก็เริ่มออกปฏิบัติภารกิจในบูดาเปสต์ด้วยการสืบหาว่าสายของCIA ที่ซุกซ่อนอยู่ในกองทัพรัสเซียเป็นใคร เป้าหมายของเธอคือ เนท แนช เจ้าหน้าที่CIA ที่ติดต่อกับสายลับผู้นี้ จากนี้โดมินิกา ต้องทำงานร่วมกับทีมสแปร์โรว์คนอื่น ๆ ตัวละครเพิ่มมาอีกหลายคนทั้งทางฝั่งรัสเซียและCIA ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายนายที่ลงมามีบทบาทสั่งการ เนื้อหาในช่วงนี้ยาวนานและชวนสับสนกับแผนการของทั้ง 2 ฝ่าย ปัญหาของหนังคือวิธีการสืบของโดมินิกาที่ใช้มารยาล่อหลอก Red Sparrow

จึงไม่มีฉากแอ็คชั่นอย่างที่คุ้นเคย กระสุนปืนถูกยิงแทบนับครั้งได้ ตัวละครสายบู๊มีเพียงรายเดียวคือ มาโทริน นักฆ่าจากฝั่งรัสเซีย ปรากฏตัวด้วยภาพลักษณ์ที่คัดมาดีดูหน้าตาโรคจิตชวนให้รู้สึกว่าเป็นบุคคลอันตราย และทุกฉากที่มาโทรินโผล่มาก็ช่วยเพิ่มความดุเดือดให้กับหนัง ช่วยดึงสติที่กำลังสลึมสลือให้กลับมาอยู่กับหนังได้บ้าง เพราะช่วงกลางเรื่องอันยาวนานนี่ก็เกือบพาหลับอยู่หลายครั้ง

 

รีวิว RED SPARROW-2

 

รีวิว RED SPARROW เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร

Red Sparrow เรื่องราวของ โดมินิก้า อีโกโรว่า (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) นักเต้นบัลเลต์สาวสวยชาวรัสเซียที่มีแม่กำลังป่วย แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเธอดันประสบอุบัติเหตุระหว่างการแสดงจนขาหักและไม่สามารถทำการแสดงได้อีกต่อไป ชีวิตของเธอกำลังจะตกอับ และนั้นเป็นช่องทางให้อีโกรอฟ (มาทีอัส โชนาร์ท)

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของรัสเซีย ผู้เป็นอาแท้ๆของเธอได้ออกอุบายชักชวนให้เธอตกหลุมพรางเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ“สแปร์โรว์”สายลับนักล่อลวงประจำกองกำลังรักษาความปลอดภัยรัสเซียโดมินิก้าต้องเรียนรู้ถึงอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ การจงรักภักดีต่อประเทศ การเสียสละทุกอย่างแม้กระทั่งร่างกายของตัวเองเพื่อใช้เรือนร่างของเธอและเซ็กส์เป็นอาวุธ การฝึกฝนที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ แต่เธอยังคงดิ้นรนเพื่อรักษาความเป็นตัวเองไว้ท่ามกลางระบบอันไม่เป็นธรรมของหน่วยงาน

โดมินิก้า ได้รับภารกิจครั้งใหญ่เพื่อตามหาหนอนบ่อนไส้ในกระทรวงความมั่นคงของรัสเซียและได้หลงเข้าสู่วังวนแห่งความหลงใหลตกหลุมรักกับเจ้าหน้าที่ซีไอเอ นาธานเนล แนช (โจ เอ็ดเกอร์ทอน) หลังจากนั้นเรื่องราวความสนุกและความมันส์ในการวางแผนซ้อนแผนพลิกไปพลิกมาก็ได้เริ่มขึ้นเรื่องนี้ยังร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมายอาทิอัส โชนาร์ท, ชาร์ลอต แลมพลิง, แมรี่-หลุยส์ ปาร์กเกอร์ และ เจเรมี่ ไอรอนส์

ส่วนตัวแอบรู้สึกผิดหวังกับภาพยนตร์เรื่องนี้นิดหน่อยเนื่องจากหวังว่าจะได้เห็นฉากแอ็คชั่นแต่เอาเข้าจริงการเล่าเรื่องออกจะเนือยๆ และยืดเยื้อไปสักหน่อย ตัวหนังจะเน้นเดินเรื่องเชิงจิตวิทยาใช้กลวิธีหลอกล่อพลิกไปพลิกมา แบบแผนซ้อนแผนแล้วซ้อนแผนอีกที ทำให้คนดูต้องคิดหนักว่าตกลงแล้วโดมินิกาจะเลือกอยู่ฝั่งไหนกันแน่ แต่ก็มีบางฉากที่คาดเดาได้ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในหนัง ถึงแม้จะผิดหวังกับฉากแอคชันแต่ก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับฉากการทรมานที่ออกจะซาดิสม์อยู่พอสมควรและคงเป็นที่ถูกใจของหนุ่มๆ

 

 

กับฉากวาบหวิวที่แสนจะเปลืองตัวของ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์”ที่มีให้ได้เห็นตลอดทั้งเรื่องถ้าถามความคุ้มค่าของหนังเรื่องนี้สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะไปดูดีไหมอยากจะบอกสั้นๆ ว่าแค่ได้ดูเนื้อหนังมังสาของ “เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์”ก็น่าจะคุ้มแล้วส่วนถ้าใครชอบแนวบู๊แอ็คชั่นก็คงจะผิดหวัง แต่ถ้าชอบหนังซาดิสม์แบบต้องร้องซี๊ด ก็ไปดูเลย

เจน ลอว์ ดูทุ่มเทมากกับบทนี้ ทั้งการฟิตหุ่นที่เห็นได้ชัดว่าผอมเพรียวขึ้นมาก เพราะเรื่องนี้เธอโชว์ฉากเปลือยอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะแฟน ๆ เจน ลอว์ ไม่ควรพลาดถ้าอยากดูเนื้อหนังสรีระของเธอก็น่าจะพึงพอใจกับเรื่องนี้เลยล่ะ เพื่อบทสายลับรัสเซีย เจนนิเฟอร์ ทำการบ้านดีมาก ฝึกพูดสำเนียงรัสเซีย และฝึกเต้นบัลเลต์ก่อนถ่ายทำถึง 4 เดือน

เป็นหนังอีกเรื่องที่ใช้บริการดารารุ่นใหญ่มากหน้าหลายตา เซียแรนด์ ไฮนด์ส , แมรี่ หลุยส์ ปาร์คเกอร์ , แมทเธียส สโคนอาร์ต รายที่น่าเสียดายคือ ชาร์ล็อต แรมปลิง ยอดฝีมือรุ่นใหญ่ในบท เมทรอน ครูฝึกสแปร์โรว์ ที่เปิดตัวมาดูมีความน่ากลัวลึก ๆ แต่บทเธอก็จบไปในช่วงสั้น ๆ และที่เท่มากคือ เจเรมี ไอออนส์ ในบทนายพล คอร์ชนอย ที่ยังไว้ลายยอดฝีมือรุ่นใหญ่ได้อยู่ ดูมีความน่าเกรงขามและแฝงความลึกลับอยู่ในตัว แสดงพลังให้รู้สึกได้ในทุกฉากที่ปรากฏตัว เป็นดารารุ่นใหญ่ที่อายุมากก็ยังดูเท่อยู่เสมอ ส่วนโจเอล เอ็ดเกอร์ตัน พระเอกของเรื่องถือว่าเป็นงานเสมอตัวไม่ได้แย่ แล้วก็ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ

สิ่งที่หนังทำได้ดีคือ การต่อกรกันของสายลับที่ต้องชิงไหวชิงพริบกันตลอดเวลา คือดูยากที่จะเดาว่าใครคือหนอนบ่อนไส้ ใครคือสายลับ หนังทำได้ค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก แต่ก็จุดนี้อีกนั่นแหละที่ทำให้หนังค่อนข้างยืดยาวและยืดเยื้อ ช้วงกลางของหนังค่อนข้างจะอืดถึงอืดมาก ทำให้มีอาการง่วงหงาวหาวนอนกันบ้าง ซึ่งถ้าทำให้กระชับลงกว่านี้น่าจะทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อเท่าที่มันเป็น

ต้องยอมรับว่า เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เป็น “เดอะแบก” ของหนังแบบเต็มๆ ด้วยการแสดงของ เจน มันทำให้หนังดูดีขึ้นเอามากๆ เพราะนักแสดงคนอื่นไม่ได้มีความเจ๋งอะไรสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าฝีมือการแสดงไม่ดี แต่บทไม่ได้ส่งให้ใครดูดีขึ้นมาเลย โดยเฉพาะตัวพระเอกนี่ ไม่ได้มีความเด่นเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่ควรจะเด่นคู่กับ เจน

 

รีวิว RED SPARROW-2

 

ข้อมูลเจาะลึกของหนังเรื่องนี้

และแน่นอนหนังทุกเรื่องในข้อคิดเราเสมอ วันนี้เลยมี 8 ข้อคิดที่ได้จากการดูหนังเรื่อง“Red Sparrowหญิงร้อนพิฆาต” มาฝากกันด้วย รีวิวหนังบู้ออนไลน์

1.“เซ็กส์” คือ“อำนาจ” อย่างหนึ่งของมนุษย์  ในบางครั้งเราสามารถใช้เซ็กส์เพื่อทำให้เรามีอำนาจเหนือกว่าได้ และนี้คือสิ่งที่นางเอกใช้เพื่อให้มีอำนาจเหนือกว่าคู่ต่อสู้

2.เรื่องของการมองคน หากเราจะพยายามหาว่าเขาต้องการอะไร “เราต้องมองให้ลึกลงไปกว่าสิ่งที่เราเพียงเห็นภายนอก” สิ่งที่เขาแสดงออกมานั้น อาจจะไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของเขาก็ได้ เช่นคนที่ข่มขืนใครสักคนอาจจะไม่ได้ต้องการแค่เซ็กส์เสมอไป แต่อาจจะต้องการอำนาจหรือความรัก ในเรื่องนางเอกสามารถมองคนออกได้ลึกมากนั้นทำให้เธอเป็นผู้คุมเกมในเรื่องได้อย่างไม่ต้องสงสัย

3.“มารยาของผู้หญิงเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้” นางเอกเป็นคนที่สามารถใช้มารยาของผู้หญิงได้อย่างโดดเด่น ทำให้เห็นเลยว่ามารยาของผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวเพราะคุณควบคุมไม่ได้ ถึงแม้บางครั้งเธอจะแสดงท่าทีเหมือนว่าคุณสามารถควบคุมเธอได้แล้วก็ตาม แต่นั้นอาจจะเป็นมารยาอย่างหนึ่งของเธอ

4.“จงอย่าแน่ใจว่าคุณคือผู้คุมเกม จนกว่าจะถึงจุดจบของเกม” หลายๆ ตัวละครในเรื่องแสดงออกว่าตัวเองคือผู้คุมเกมนี้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะตัวละครเหล่านี้เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของนางเอกเท่านั้น

5.“การยอมไม่ได้หมายความว่าคุณแพ้”การที่เราต้องยอมทน หรือยอมทำอะไรสักอย่างมันอาจจะไม่ได้หมายความว่าคุณแพ้เสมอไป แต่มันอาจจะเป็นการยอมเพื่อทำให้คุณเป็นต่อคู่แข่งและชนะในท้ายที่สุด ในหนังหลายๆ ครั้งที่เราจะได้เห็นนางเอกยอม แต่การยอมของเธอเพื่อที่จะเป็นผู้ที่เหนือกว่าไปอีกก้าว

 

 

6.“จงอย่าทำให้คนจนตรอก”อย่าล้อมใครจนเขาต้องจนตรอก เพราะหมาจนตรอกมันจะสู้สุดชีวิตแล้วสุดท้ายอาจจะเป็นคุณเองนั้นแระที่จะตายเอง ในเรื่องเรารู้สึกว่าทางหน่อยงานทำให้เธอต้องกลายเป็นหมาจนตรอก และนั้นทำให้เธอลุกขึ้นมาสู้ และตอบแทนอย่างสาสมจนเกิดเป็นเรื่องราวมันๆ ในหนัง

7.“ครอบครัวไม่ใช่กลุ่มคนที่หวังดีกับเราเสมอไป” คำว่าครวบครัว หรือญาติพี่น้องไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันให้เราได้เลย ว่าบุคคลนี้จะเป็นผู้หวังดีกับเรา บางครั้งคนนอกอาจจะหวังดีกว่าเราด้วยซ้ำไป ข้อคิดนี้เห็นได้ชัดจากตัวอาของนางเอก ที่ดูเหมือนจะหวังดีแต่แท้จริงแล้วเห็นนางเอกเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของเขาที่จะช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

8.“ไม่ว่าอย่างไรจงอย่าลืมความเป็นตัวเองโดยเด็ดขาด” ข้อนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดในตัวนางเอกของเรื่อง ไม่ว่าเธอจะต้องผ่านการฝึกฝนที่หนักหนาแค่ไหน ต้องยอมที่จะปรับตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเอาตัวรอดเพียงใด แต่นั้นเป็นเพียงมารยาหญิงที่เธอแสดงออกมา เพราะในทุกๆ การแสดงเป็นบทบาทอื่นๆ ข้างในนั้นเธอยังแฝงความเป็นตัวเองไว้เสมอ
เอาเป็นว่าใครที่อยากรู้ว่าแต่ละข้อคิดมาจากฉากไหนของหนังก็เข้าโรงไปดูกันได้เลย รีวิวหนังบู้