รีวิว Spotlight

หากพูดถึงหนังที่สะท้อนสังคมแวดวงของคดีอาชญากรรมอาจจะมีหลายเรื่อง แต่เรื่องที่สร้างมาจากเรื่องจริงก็มีไม่น้อยเหมือนกัน และวันนี้ผมมีหนังจะนำเสนอ คือ เรื่อง Spotlight หนังที่ตีแผ่ความศรัทธาและความถูกต้องในวงการศาสนา ผลงานการกำกับของ Tom McCarthy ที่ได้รับคะแนนวิจารณ์และคำชมอย่างมากในวงการ จนกลายเป็นอันดับหนึ่ง ของภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประจำปีนี้ รับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว Spotlight

 

และหนังเรื่องนี้ ยังเป็นเรื่องราวของทีมนักข่าวหนังสือพิมพ์ Boston Globe ที่ทำการตีแผ่เรื่องราวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และการข่มขู่เด็กชาย ในศาสนจักรคาธอลิค ที่เป็นกระแสโด่งดัง ในอเมริกาในช่วงปี 2001-2002 ขอบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้เป็นแบบ บรรยายพูด แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่คำบรรยายหนังได้ถ่ายทอด ให้ผู้ชมสามารถจินตนาการภาพ ไปได้ด้วยอย่างไม่งง และการเดินเรื่อง ของหนังเรื่องนี้ จะค่อยๆทำให้เราเริ่มนำข้อมูลที่หาได้มารวมกัน จนได้ความจริงเล็ก ๆ ที่ปรากฏเรื่อยๆ จนใกล้ความจริงของต้นตอทั้งหมด จนต้องนั่งลุ้นกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับทีมนักข่าวนี้อย่างแน่นอน และใครอยากจะลุ้นไปด้วยกัน สามารถไปรับชมได้ที่ ดูหนังฟรี4k

เหตุการณ์เริ่มจากบก.คนใหม่ Marty Baron  ซึ่งเป็นชาวยิวและไม่ได้เป็นแท้แต่คนบอสตันโดยกำเนิด มอบหมายให้ทีม Spotlightขุดคุ้ยข่าวบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศเด็กในบอสตัน การสืบหาข่าวที่สั่นสะเทือนวงการศาสนาอย่างใหญ่หลวง ที่ต้องผ่านแรงต้านที่สำคัญ เพราะศาสนาคือสิ่งที่หลายคนเลือกจะไม่พูด กระอักกระอ่วนใจที่จะเปิดเผย โดยเฉพาะมันเป็นเรื่องของบาทหลวงที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดเด็กชาย และเรื่องราวเหล่านี้มีต่อเนื่องมายาวนานราว 30 ปีแต่ไม่มีใครออกมาเปิดโปงจริงจัง

นอกจากนี้ยังตีแผ่ถึงการเมืองภายใต้คริสตจักรอีกด้วย จากประโยคที่น่าจดจำอย่าง “They control everything” และใครอยู่เบื้องหลังที่แท้จริงนั้น อาจไม่มีใครทราบความจริงได้ แต่เรื่องนี้พยายามเปิดโปงเรื่องราวเหล่านี้ให้คนภายนอกได้รับรู้ ผ่านทีมนักข่าว Spotlight ที่นับถือนิกายนี้เช่นเดียวกัน

แม้ว่าเหตุการณ์ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในหนัง จะผ่านเวลามากว่า 10 ปีแล้ว แต่ประเด็นในหนัง กลับไม่ใช่เรื่องตกยุคเลย ขณะเดียวกัน มันกลับสะท้อนให้ผู้ชมได้มองเห็นว่า สื่อมวลชน นั้นมีบทบาทที่สำคัญอย่างไรต่อสังคม และเป็นตัวขับเคลื่อนวิถี   ชีวิตได้เช่นไร ต้องไปตามรับชม ที่ ดูหนังออนไลน์4k

 

รีวิว Spotlight-2

 

รีวิว Spotlight รีวิวความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ 

หนังได้รับการเสนอเข้าชิงลูกโลกทองคำไป 3 รางวัล วืดหมด แต่กำลังเข้าชิง 6 รางวัลออสการ์ หลายสำนักว่ามันเป็นหนังเต็ง ซึ่งหลังจากได้ไปดูก็ยิ่งพบว่ามันเหมาะสมที่จะเป็นหนังเต็งอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ

ต้องบอกเลยว่า ด้วยวัตถุดิบของ หนังเรื่องนี้ นั้น มันดีในตัวของมันเองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตีแผ่ความเน่าเฟะของสถาบันศาสนา การทำงานของสื่อมวลชน การล่วงละเมิดทางเพศเยาวชน เพศที่สาม ปัญหาครอบครัว ความเลื่อมใสศรัทธาของคนในสังคม ฯลฯ เรียกได้ว่าเนื้อหาครบเครื่องครอบคลุมปัญหาที่ฝังรากลึกในสังคมเป็นเวลายาวนาน

ถึงแม้หนังจะดูเต็มไปด้วยประเด็นหนักๆ มากมาย แต่ ณ ขณะที่ดู เราไม่รู้สึกเครียดหรือเบื่อเลยสักนิด ตรงกันข้าม เรารู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวมาก ดูสนุก เข้มข้นครบรส ชวนติดตาม มีมุกตลกสอดแทรกเนียนๆ ตลอด ที่สำคัญดูไม่ยากเลย รับประกันว่านี่เป็นหนังสำหรับคนทุกคน ทุกวัย ทุกศาสนา และทุกทุกสังคม ทุกชนชั้น

หนังให้น้ำหนักไปยังประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุดไม่ว่าจะศาสนาไหนๆ คือเรื่อง ความถูกต้อง และความศรัทธา คนเราเมื่อมีความศรัทธา มักจะมองข้ามความถูกต้อง ไม่ยอมรับความจริง ซึ่งนี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การกระทำความผิดดังกล่าวยังดำเนินมาเรื่อยๆ โดยที่ผู้เสียหายเห็นการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการศรัทธา เห็นผู้ที่กระทำผิดว่าเป็นพระเจ้าเพียงเพราะเป็นหลวงพ่อในคริสตจักร ซึ่งไม่ว่าในศาสนาไหนๆ การตีแผ่เรื่องราวในด้านลบของศาสนา ผู้ที่ตีแผ่ย่อมถูกมองในแง่ลบอย่างแน่นอน ซึ่งไทยเราก็เคยประสบมาแล้วในหลายๆเหตุการณ์

 

รีวิว Spotlight-3

 

คนเราเมื่อมีการศรัทธา มักมองข้ามความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เกิดการไม่ยอมรับความจริง เพราะเหตุนี้อาจจะกลายเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การกระทำความผิดเฉกเช่นการล่วงละเมิดทางเพศยังคงดำเนินมาเรื่อย ๆ

ผู้ที่พบเห็นนั้นคิดเพียงแค่ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการศรัทธา และคิดว่าผู้กระทำเป็นพระเจ้า เนื่องจากเป็นหลวงพ่อที่เป็นตัวแทนของ พระเจ้า นั่นเอง โดยความเป็นจริงแล้วนั้นไม่ว่าศาสนาใด การตีแผ่เรื่องราวในแง่ลบของศาสนา ผู้ที่ตีแผ่ย่อมถูกมองในแง่ลบอย่างแน่นอน มีให้เห็นตัวอย่างในประเทศไทยเป็นบางครั้ง

หนังเขียนบทและกำกับโดย ทอม แม็คคาร์ธีย์ อดีตดาราชายที่หันมาเอาดีทางด้านกำกับ ที่กวาดรางวัลไปเยอะเหมือนกัน รอบนี้ ทอม เลือกหยิบคดีอื้อฉาวในปี 2001 ที่ส่งผลให้หนังสือพิมพ์ บอสตันโกลบ ได้รางวัลพูลิตเซอร์ในสาขารับผิดชอบสังคมในปี 2003 มาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์เอง เน้นไปที่ทีม สปอตไลท์ กลุ่มนักข่าวฝีมือดี 4 คนของหนังสือพิมพ์ บอสตัน โกลบ ที่ได้รับคำสั่งจาก บรรณาธิการคนใหม่ให้ไปรื้อข่าวบาทหลวงล่วงเกินทางเพศเด็กในปี 1993 มาขยายความ จากชื่อบาทหลวงเพียงหนึ่งขยายเป็น 13 คน และจบที่ตัวเลข 87 คนทั่วบอสตันที่มีความเป็นไปได้ว่ากระทำชำเราเด็กจริง จากข่าวเล็ก ๆ กลายเป็นข่าวใหญ่ที่น่าจะส่งผลกระทบไปถึงศาสนจักรทั่วโลก เมื่อสปอตไลท์มีหลักฐานว่า เหล่าพระราชาคณะ ต่างรู้เห็นเรื่องนี้มาตลอดแต่ร่วมกันปกปิด

 

 

แม้ Spotlight จะเป็นหนังสายรางวัลแต่หนังก็ไม่ได้ดูยาก ไม่น่าเบื่อ ด้วยเนื้อหาที่เดินหน้าเร็ว ผสมเรื่องราวเชิงสืบสวนที่ลากจากเบาะแสหนึ่ง ไปอีกเบาะแสหนึ่งตลอดเวลา ลามไปถึงผู้เกี่ยวข้องมากมาย ทำให้หนังมีตัวละครในเรื่องเยอะมากกกก ได้เห็นการทำงานที่มากกว่าคำว่านักข่าว ที่ต้องพ่วงบทบาทนักสืบเข้าไปด้วย การทำงานแบบโคตรทุ่มเท เดินเคาะประตูตามบ้าน บ้านไหนไม่ยินดี ก็โดนด่าท้าตีท้าต่อย การใช้วาทะศิลป์ลูกล่อลูกชนให้เหยื่อยอมเล่าความจริงที่ตัวเขาอยากจะลืมเรื่องราวส่วนนี้น่าจะถูกใจคนทำงานหนังสือพิมพ์ได้เห็นการทำงานของทีมที่ได้รางวัลพูลิตเซอร์ว่าเขาทุ่มเทกันอย่างไร ได้เห็นการตัดสินใจยาก ๆ ของคนระดับหัวหน้าที่ต้องเลือกจะตีแผ่ข่าวเลยหรือจะรอข้อมูลสำคัญแล้วยิงทีเดียวแบบเอาให้ตาย

มาดูที่นักแสดงกันบ้าง ตัวละครในหนังนั้นมากพอดูจนคนแรมน้อยอาจจะมีปัญหาบ้างในการจดจำชื่อว่าใครเป็นใคร แต่กลายเป็นหนังไม่ได้ดูยากแต่อย่างใด ถึงแม้จะมีปัญหาในการจดจำชื่อตัวละครไปบ้าง แต่ก็เข้าใจในสถานการณ์ได้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ต้องอธิบายอะไรให้ยุ่งยาก ทั้ง Michael Keaton ที่รับบทเป็น Robbie โค้ชของทีม Spotlight แล้วก็มีนักข่าวในทีมอีก 3 คน ได้แก่ Mark Ruffalo เป็น Mike Rezendes นักข่าวสายบู๊ อยากรู้อะไรต้องได้รู้ ไรงี้ (The Hulk จาก Begin Again 55) อีกคนคือ Brian d’Arcy James เป็น Matt Carroll คนนี้สายข้อมูล ถนัดสืบค้นมากกว่าออกไปลุยข่าวนอกสนามเอง

และคนสุดท้าย อีกหนึ่งแรงจูงใจที่ไปดูเรื่องนี้ นั่นคือ Rachel McAdams รับบทเป็น Sacha Pfeiffer  นักข่าวหญิงคนเดียวของทีม ในเรื่องน่ารักมาก ผู้หญิงทำงานเก่งนี่มันดูดีจริงๆ ดูเท่ ดูแพง ดูดีทุกอนูจริงๆครับ

 

 

ข้อมูลของหนัง

ชื่อภาพยนตร์: Spotlight / คนข่าวคลั่ง

ผู้กำกับภาพยนตร์: Tom McCarthy

ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Josh Singer, Tom McCarthy

นักแสดงนำ: Mark Ruffalo, Michael Keaton, Rachel McAdams, Liev Schreiber, John Slattery, Brian d’Arcy James, Stanley Tucci, Neal Huff, Jamey Sheridan

ความยาว: 128 นาที

แนว/ประเภท: Biography, Drama, History, Thriller

วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 14 มกราคม 2559

รับชมได้ที่ เว็บดูหนังฟรี

และหากคุณชอบรีวิวหนังบู๊ หนังสงคราม และหนังอาชญากรรมสนุกๆแบบนี้ ทางเราคัดสรรคอนเท้นต์ คุณภาพดี มากมายที่ สปอยหนังดีออนไลน์ รีวิวหนังออนไลน์