รีวิว The Chaser

สุดยอดหนังโคตรจะโหดร้าย นี่คือหนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของหนึ่งในฆาตกรที่โหดที่สุดของประเทศเกาหลีอย่าง ยูยังชอล (Yoo Young-chul) ฆาตกรต่อเนื่องที่คนเกาหลีได้ให้สมญานามว่าเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีเลยทีเดียว ภาพยนตร์เกาหลีแนวสืบสวนสอบสวน ดัดแปลงจากแฟ้มคดีจริงที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในเกาหลีใต้ ยูยังชอล (Yoo Young-chul) ฆาตกรต่อเนื่อง 20 ศพ โดยเหยื่อส่วนมากเป็นผู้หญิงขายบริการ หลังถูกจับกุมเมื่อปี 2004 ปัจจุบันยูยังชอล ยังใช้ชีวิตอยู่ในคุกรอการประหาร ดูหนังออนไลน์

ยูยังชอล เติบโตมาในชีวิตที่ค่อนข้างยากลำบาก มีปัญหาในครอบครัวตั้งแต่เล็กๆ มีปมฝังใจมากมาย ถูกบลูลี่ในโรงเรียน เขาจงเกลียดจงชังคนที่มีฐานะร่ำรวยกว่า เปรียบคนพวกนี้เป็นเหมือนปลิงหรือหมา เป็นดั่งเชื้อโรคที่ต้องกำจัด เขามักจะสังหารเหยื่อที่มีฐานะดีและภายหลังก็เลือกที่จะสังหารเหยื่อสาวที่ประกอบอาชีพโสเภณีด้วย เหยื่อส่วนใหญ่จะถูกทุบหัวด้วยค้อนจนกระโหลกแตกละเอียด ทำร่างกายให้พิการ และจ้วงแทงให้ตายอย่างทรมาน และภายหลังเขาได้สารภาพว่าเคยกินตับของเหยื่อบางคนเข้าไปด้วย มีเหยื่อประมาณ 20 รายที่ถูกเขาฆาตกรรม ทุกศพล้วนตายอย่างสยดสยองและทรมาน

จากเรื่องจริงของฆาตกรรายนี้ถูกหยิบยกเอาเค้าโครงมาสร้างเป็นหนังเรื่อง The Chaser สร้างออกมาได้น่าติดตามสุดๆไปหาดูเลย บอกเลยว่าเรื่องจริงโหดกว่าในหนังเยอะมากกกกกก แต่ในหนังก็ถือว่าสร้างออกมาได้ตราตรึงเรื่องหนึ่งเลยเท่าที่แอดเคยดูหนังแนวนี้ของเกาหลีมา ลุ้นทุกนาที เดาใจฆาตกรไม่ถูก ใครจะรอดใครจะตาย และจะจัดการมันได้ไหม นั่งไม่ติดเก้าอี้เลยจ้า ไปหาดูเถอะพลาดไม่ได้จริงๆเรื่องนี้ เว็บดูหนังฟรี

จุดเริ่มต้นความน่ากลัวเกิดจากความสงสัยของอดีตนายตำรวจอย่าง จุงโฮ (Yoon-seok Kim) ที่ผันตัวเองมาเป็นแมงดาคุมซ่อง มีหน้าที่จัดส่งผู้หญิงให้กับผู้ใช้บริการที่มีความต้องการกามอารมณ์ แต่พักหลังมีผู้หญิงในเครือข่ายหายตัวไป สิ่งที่คิดคือเหล่าโสเภณีถูกชักจูงหรือถูกแย่งตัวไปใช่หรือไม่ ขณะเดียวกันต้องทำเงินบริการลูกค้าส่ง มีจิน (Yeong-hie Seo) ที่สภาพป่วยอ่อนแอและต้องเลี้ยงลูกมาทำงานทดแทนคนที่หายไป ทว่าเมื่อมาเช็คประวัติคนที่โทรมาติดต่อก็พบว่าผู้หญิงที่ไปกับลูกค้ารายนี้ล้วนไม่มีใครกลับมา!

สำหรับหนังสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ เป็นหนังระทึกขวัญที่มีฉากความรุนแรงค่อนข้างเยอะ คนขวัญอ่อนต้องเตรียมใจก่อนดู แต่ถ้ามีภูมิต้านทานกับหนังแนวนี้มาพอสมควรแล้ว รับประกันว่าไม่ผิดหวังแน่นอน และต้องขอยกความดีงามให้กับนักแสดงทุกคน ที่เล่นได้สมบทบาทกันสุด ๆ โดยเฉพาะพระเอกแถวหน้าของเกาหลีอย่าง ฮาจองอู ที่มารับบทฆาตรกรโรคจิต ก็แสดงได้สมบทบาทมาก

 

รีวิว The Chaser-1

 

รีวิว The Chaser เนื้อเรื่องเข้มข้นกระตุกจิต กระชากใจ

ในแง่ความบันเทิง แน่นอนว่าผู้กำกับคนนี้จัดให้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง เนื้อหาเข้มข้นกว่า 2 ชั่วโมงเต็ม แทบไม่ได้พักหายใจหายคอ แค่ช่วงเริ่ม 30 นาทีแรกของหนัง ฆาตรกรก็ถูกจับกุม และสารภาพพร้อมอธิบายวิธีการลงมืออย่างละเอียด แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายขนาดนั้น !! เพราะนี่มันเพิ่งแค่เริ่มต้น !! สร้างอารมณ์ที่หนักหน่วงให้คนดูได้ไม่น้อยเลย

เรื่องราวของจุงโฮ อดีตตำรวจที่ผันตัวมาเป็นแมงดาคุมซ่อง คอยรับส่งเด็กสาวให้กับลูกค้าที่ซื้อบริการ ทว่าพักหลังเกิดปัญหา เด็กของจุงโฮหลายคนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย กระทั่งลูกค้ารายล่าสุดได้โทรศัพท์ติดต่อมาขอใช้บริการ จุงโฮเลยตัดสินใจให้ มีจิน สาวบริการที่มีลูกติดเป็นเด็กหญิงวัย 7 ขวบ มารับบริการลูกค้ารายนี้ แต่ไม่นานจุงโฮกลับจำได้ว่าเบอร์ที่โทรมานั้นเป็นเบอร์สุดท้าย ก่อนที่เด็กของเค้าจะหายตัวไป จึงคิดว่าเป็นเอเจนต์หลอกเด็กไปขายต่อ แต่จุงโฮคิดผิด เพราะลูกค้ารายนี้คือ จียังมิน ฆาตกรโรคจิต สุดท้ายแล้ว จุงโฮจะสามารถช่วย มีจิน จากฝีมือฆาตกรโรคจิต จียังมิน ได้หรือไม่ ต้องติดตาม ดูหนัง

ไม่นึกว่า Jung-woo Ha จะรับบทเป็นฆาตกรได้สมบทบาทขนาดนี้ ชนิดที่หน้านิ่งแล้วยังมีแววตาที่เย็นชา จะลงมือฆ่าคนสักคนหรือกี่คนก็ไม่รู้สึกรู้สาใดๆทั้งสิ้น ทำให้เชื่อว่าเป็นบุคคลอันตรายที่ไม่ควรปล่อยไว้ในสังคม ขณะเดียวกันยังปรับเปลี่ยนแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้จนน่าหมั่นไส้ กลายเป็นตัวละครที่น่ากลัวและน่ารังเกียจในเวลาเดียวกัน

 

 

นอกจากรุนแรงผ่านการกระทำแล้วยังรุนแรงทางด้านจิตใจ มีหลายอย่างที่ขัดใจอยากให้ฆาตกรรับผลกรรมของตัวเอง เพราะสิ่งที่ทำนั้นอำมหิตเลือดเย็นอย่างมาก แต่ไม่อาจทำอะไรได้เพราะไม่มีหลักฐาน ฉะนั้นถึงทำเป็นยอมรับฆ่าคนก็ต้องปล่อยตัวให้เดินหน้าลอยตาต่อไป นับเป็นช่วงเวลาที่ท้อแท้และหดหู่อย่างมากที่ไม่อาจเอาคืนได้ กลายเป็นช่องโหว่ที่พูดถึงกฎหมายที่ไม่อาจเอาผิดคนทำ แม้จะในความจริงเป็นข้อดีช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือเสียด้วยซ้ำ

ช่วงแรกดูอลหม่านไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไร อนึ่งเป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของ Hong-jin Na ทำให้ไม่น่าสนใจและไร้เหตุผล จนทุกอย่างเริ่มประติดประต่อทีละนิดทำให้ละสายตาแทบไม่ลง โดยเฉพาะการสร้างความน่ากลัวที่รุนแรงผ่านความคิด ซึ่งไม่มีฉากไหนที่เห็นจะๆเต็มตาว่าทำยังไงไปบ้าง มีเพียงอาวุธที่ถือในมือคือค้อนและสิ่วที่เล็งไปที่หัวเท่านั้น สร้างความหวาดเสียวและลุ้นพอสมควร

หนังทำให้เราเอาใจช่วย อดีตนายตำรวจในการติดตามหญิงสาวที่อยู่ในการดูแลของเขามาก ๆ เราอยากรู้ มากๆว่าจะจับฆาตกรได้อย่างไร ไปยิ่งไปกว่านั้นก็อยากรู้อีกว่า ฆาตกรคนนี้มีวิธีการจัดการศพอย่างไร ฆาตกรคนนี้มีความฉลาด รอบคอบ แต่ด้วยทักษะของอดีตนายตำรวจก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เขาต้องหาให้ได้ว่าหญิงสาวที่อยู่ในการดูแลอยู่นั้น ยังมีชีวิตรอดอีกหรือไม่และถ้ารอดนั้นอยู่ที่ใด เขาต้องสืบสวนสอบสวนแข่งจับเวลาให้ได้มากที่สุดเพราะทุกวินาทีนั้นคือความเป็นความตาย แต่หนังก็ไม่ได้ทำออกมาแนวตัดเหลี่ยมเฉือนคมอะไรมากนัก หนังพาเราดำดิ่งเข้าถึงอารมณ์มากกว่า

 

รีวิว The Chaser-2

 

หลังดูแล้ว หนังเรื่องนี้มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

เนื้อหาเข้มข้น บทหนัก อารมณ์หนัก มันหนักไปหมดทั้งเรื่อง ไม่มีการผ่อนเบาให้กับคนดูเลยสักนิด

ความดีงามทั้งหมดต้องขอยกให้ผู้กำกับ ที่สามารถนำเสนอเรื่องราว อารมณ์แบบสมจริงสมจังผ่านตัวละครต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ก็ต้องขอยกความยอดเยี่ยมให้กับนักแสดงทุกคน

ดูไปดูมาก็รำคาญพฤติกรรมและการทำงานของตำรวจไม่น้อยเลย ชักช้ายืดยาด อืดอาด หวุดหงิดมาก ยังกะหนังแนวตำรวจไทยในสมัยเมื่อ 30 กว่าปีก่อนของประเทศไทยยังไงอย่างนั้น

เป็นหนังระทึกขวัญสืบสวนสอบสวน ที่มีฉากการใช้ความรุนแรงเยอะมาก เข้าขั้นความสยองขวัญ อย่างเช่นการใช้ค้อนกับเหยื่อ การทำร้ายร่างกายสารพัด แล้วก็การฆ่าที่โหดร้ายทารุณ ทำร้ายจิตใจคนดูแบบขั้นสุด โอ้โห้ อะไรจะปานนั้น เรียกได้ว่าคนขวัญอ่อนไม่ควรดู แต่ถ้าใครชอบหนังแนวสะใจทางนี้รับประกันได้เลยว่าจะไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ขอเตือนว่ามันสะเทือนใจแบบขั้นสุดเลยนะ สะเทือนใจในแบบถึงขั้นดูไปแล้วเป็นสัญญาจิตใจยังหดหู่อยู่เลย

หนังทำให้เราเอาใจช่วย อดีตนายตำรวจในการติดตามหญิงสาวที่อยู่ในการดูแลของเขามาก ๆ เราอยากรู้ มากๆว่าจะจับฆาตกรได้อย่างไร ไปยิ่งไปกว่านั้นก็อยากรู้อีกว่า ฆาตกรคนนี้มีวิธีการจัดการศพอย่างไร ฆาตกรคนนี้มีความฉลาด รอบคอบ แต่ด้วยทักษะของอดีตนายตำรวจก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เขาต้องหาให้ได้ว่าหญิงสาวที่อยู่ในการดูแลอยู่นั้น ยังมีชีวิตรอดอีกหรือไม่และถ้ารอดนั้นอยู่ที่ใด เขาต้องสืบสวนสอบสวนแข่งจับเวลาให้ได้มากที่สุดเพราะทุกวินาทีนั้นคือความเป็นความตาย แต่หนังก็ไม่ได้ทำออกมาแนวตัดเหลี่ยมเฉือนคมอะไรมากนัก หนังพาเราดำดิ่งเข้าถึงอารมณ์มากกว่า รีวิวหนังบู้

 

 

ว่าด้วยตัวและพฤติกรรมของฆาตกร อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นแล้วว่า เป็นคนที่มีความผิดปกติทางจิต ดังนั้นเขาจึงไม่มีการยับยั้งชั่งใจในการทำอะไรที่รุนแรงโหดร้ายทารุณ ผู้กำกับก็เลือกที่จะนำเสนอภาพในมุมนี้ออกมาได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ตรงไปตรงมา มันเหมือนจริงมากๆ ทรมานจิตใจคนดูเหลือเกิน ในการกระทำของตัวฆาตกรนั้นกลับกลายว่าเป็นผู้กระทำอยู่ฝ่ายเดียว การเอาใจช่วยเหยื่อแต่ละครั้งนั้นแทบจะไม่เห็นผลอะไรเลย ทุกการกระทำที่เราเห็นนั้นสงสารเหยื่อมาก ๆ จนอยากจะร้องไห้ เอาเป็นว่าทำร้ายจิตใจคนดูตั้งแต่ต้นจนจบ

มีความรู้สึกที่เหนื่อยกับการหาหลักฐาน ทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบ แน่นอนว่าอยากให้เจอโดยเร็วที่สุดเพราะมีตัวละครที่รอการช่วยเหลือ ซึ่งลุ้นอีกว่าจะมีโอกาสรอดมากน้อยแค่ไหน แต่ขอเตือนไว้ก่อนให้เผื่อใจเอาไว้บ้าง เนื่องจากไม่ใช่ทุกเรื่องจะสมหวังไปซะทั้งหมด แต่ละอย่างล้วนหดหู่และล้าจิตใจ บางทีตกอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป

ไม่มีการเล่าถึงที่มาที่ไปที่ชัดเจนว่าฆ่าไปเพื่ออะไร แม้จะเกริ่นหรือใส่เหตุผลไว้บ้างก็ไม่เพียงพอทำให้ดูน่าเชื่อถือ นอกจากขุดคุ้ยหาประวัติจากเรื่องจริงที่บอกได้ถึงความไม่ธรรมดาและเลวร้ายอย่างมาก แต่ไม่ผิดหากหนังจะเล่าประเด็นนี้ให้น้อยที่สุดเพื่อดูเป็นคนแปลกหน้า ซึ่งเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้แล้วจู่ๆมาฆ่าคน ทว่าไม่สามารถจับเข้าคุกขณะนั้นได้เพราะไม่มีหลักฐาน ในใจคงรู้สึกเจ็บปวดพิลึกที่ความยุติธรรมไปเข้าข้างคนทำผิด

สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นการอิงถึงคดีที่เกิดขึ้นจริงในเกาหลีใต้ หรือคดีที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี ซึ่งคนก่อคดีดังกล่าวคือ”ยูยังซอล” ผู้ฆ่าคนเพราะมันทำให้เขารู้สึกดี

The Chaser (2008) โหด ดิบ ไล่ ล่า Director: Hong-jin Na Genres: Action | Crime | Thriller รีวิวหนังบู้ออนไลน์