รีวิว BlacKkKlansman

หนังอาชญากรรม ที่โคตรดี เรื่อง BlacKkKlansman ถูกดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อ Black Klansman ของ รอน สตอลเวิร์ธ นายตำรวจผิวสีคนแรกแห่งเมืองโคโรลาโดสปริงส์ ที่เล่าเรื่องราวของตัวเองในช่วงยุค 70 เกี่ยวกับแผนการแทรกซึมเข้าไปยังกลุ่มคูคลักซ์แคลน (Ku Klux Klan) กลุ่มชาตินิยมผิวขาวหัวรุนแรง เพื่อสืบหาข้อมูลและป้องกันการก่อความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหนังสื่อออกมาได้อย่างดีและคุณ ไม่ควรพลาด ด้วยประการทั้งปวง ตามมารับชมได้ที่ ดูหนังฟรี4k

 

รีวิว BlacKkKlansman

 

Ku Klux Klan ขบวนการที่เป็นเหมือนลัทธิที่มีความคิดสุดโต่ง พวกเขามองคนผิวขาวที่ตัวเองเป็นว่าเป็นผู้มีสายเลือดสูงส่ง ทั้งยังมีความคิดในการต่อต้านการเข้าเมือง ต่อต้านคาทอลิก และยังต่อต้านยิวด้วย

ด้วยเหตุนี้การที่ฟลิป ชายผู้มีเชื้อสายยิวที่แม้จะเติบโตมาด้วยคนอเมริกันธรรมดา ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูด้วยความเป็นยิว แต่เชื้อสายของเขาก็ติดตัวเขามาโดยตลอด ชื่อจริงของเขานั้น ใครได้ยินก็ต้องคิดว่าเขาเป็นยิว เมื่อมาแทรกซึมอยู่ในลัทธินี้ จึงมีความกระอักกระอ่วนชวนเครียดว่าตัวตนจริงจะถูกเปิดโปงหรือไม่ เว็บดูหนัง4k

เมื่อปี 1989 หนังเรื่อง Do the Right Thing ผลงานกำกับของสไปค์ ลี ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นล้นหลาม ได้รับคำชื่นชมในวงกว้าง ทำรายได้เข้าเกณฑ์น่าพึงพอใจ (เมื่อเทียบกับต้นทุนที่เป็นหนังฟอร์มเล็ก) เข้าชิงรางวัลและชนะในสาขาหนังยอดเยี่ยมจากหลายๆ สถาบัน แต่กลับถูกมองข้ามจากรางวัลออสการ์ โดยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงแค่ 2 สาขา (คือ นักแสดงสมทบชาย แดนนี ไอเอลโล และบทภาพยนตร์ดั้งเดิม โดย สไปค์ ลี) และกลับบ้านมือเปล่า (ส่งผลให้เกิดข้อครหาติดตามมาว่า รางวัลออสการ์มีอคติเรื่องสีผิว)

 

รีวิว BlacKkKlansman-1

 

ความสำเร็จของ Do the Right Thing ส่งผลให้สไปค์ ลี ในวัย 32 กลายเป็นคนทำหนังรุ่นใหม่ที่โดดเด่น น่าจับตามองมากสุดอีกราย เกริกเกียรติความยิ่งใหญ่แห่งปี ด้วยการคว้ารางวัล Grand Prix จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์และเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่91 ถึง6สาขา รวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ถัดจากนั้น เขามีผลงานมากมายออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนัง สารคดี หนังสั้น มิวสิควิดีโอ หนังสร้างขึ้นเพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์ แต่ยิ่งนานวัน ชื่อเสียงกลับยิ่งถดถอย มีงานในเกณฑ์ดีพอประมาณช่วงทศวรรษ 1990  และหลังปี 2000 เป็นต้นมา งานส่วนใหญ่ของเขามีคุณภาพย่ำแย่ชวนให้นึกอยากลืม เป็นอาการ ‘ฟอร์มตก’ เรื้อรัง จนเหมือนคนทำหนังที่หมดสภาพไปเรียบร้อย

แต่แล้วผลงานล่าสุดอย่าง BalcKkKlansman ก็ทำให้สไปค์ ลี ‘กลับชาติมาเกิดใหม่’ อย่างสวยงาม หนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 6 สาขา ประกอบไปด้วย ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับ บทภาพยนตร์ดัดแปลง นักแสดงสมทบชาย (อดัม ไดรเวอร์) ตัดต่อ-ลำดับภาพ และดนตรีประกอบ

 

รีวิว BlacKkKlansman-2

 

รีวิว BlacKkKlansman มีเนื้อหาอย่างไร

เล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในอเมริกายุค70s เมื่อ ฟลิพ ซิมเมอร์แมน (อลัน ไดรเวอร์) สายสืบสายเลือดยิว ประจำโรงพัก รัฐโคโลราโด ได้ปลอมโปรไฟล์เป็นชายผิวขาวเหยียดผิว เพื่อแทรกซึมเข้าไปในกลุ่ม คูคลักซ์แคลน เพื่อส่งข่าวแผนการร้ายของ คูคลักซ์แคลน ให้กับทางตำรวจ โดยมีสายสืบผิวสี รอน สตัลเวิร์ธ คอยวางแผนการทั้งหมด

ในภาพยนตร์ เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ รอน สตอลเวิร์ธ (จอห์น เดวิด วอชิงตัน) ตัดสินใจติดต่อกับ กลุ่มคูคลักซ์แคลน เพื่อสมัครเข้าเป็นเมมเบอร์กลุ่ม โดยอ้างว่าตัวเอง เป็นชายอเมริกันผิวขาว ที่ไม่นิยมพวกแอฟริกันหรืออเมริกันผิวดำ (ทั้งๆ ที่ตัวเองก็เป็นคนผิวดำเช่นกัน) โดยร่วมมือกับ ฟลิป ซิมเมอร์แมน (อดัม ไดรเวอร์) นายตำรวจชาวยิวที่ต้องแสดงท่าทีว่าตัวเองเป็นพวกไม่นิยมชาวยิวเพื่อตบตาสมาชิกคนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็มีสายเลือดของชาวยิวอยู่เช่นเดียวกัน

หนัเรื่องนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานคุณภาพของผู้กำกับ สไปค์ ลี ที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม โดยนำเสนอประเด็นการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติออกมาเป็นภาพยนตร์แนวสืบสวนได้อย่างน่าสนใจและชวนติดตาม ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกไปกับประเด็นหนักๆ ได้ไม่ยากนัก

 

 

และทันทีที่รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จนจบ เราก็เข้าใจขึ้นมาในทันทีว่าทำไมโนแลนจึงตัดสินใจเลือกวอชิงตันมารับบทเป็นสายลับในผลงานเรื่องล่าสุดของเขา

เพราะวอชิงตันได้ถ่ายทอดตัวละครสายสืบ รอน สตอลเวิร์ธ ออกมาได้มีเสน่ห์ น่าสนใจ ทั้งภาพลักษณ์ที่เข้มขรึม รวมทั้งลีลาการพูดที่จัดจ้านจนทำให้ผู้ชมไม่อาจละสายตาไปจากการแสดงของเขาได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์แนวสืบสวนเรื่องนี้สนุกสนานไม่แพ้ภาพยนตร์แนวเดียวกัน

นอกจากนี้ หนังเรื่องนี้ ยังพาผู้ชมไปร่วมสำรวจความคิดสุดโต่งของกลุ่มคูคลักซ์แคลนในช่วงยุคปลาย 70 ผ่านตัวละครที่มีตัวตนอยู่จริงอย่าง เดวิด ดุ๊ก ผู้เป็นพ่อมดใหญ่และผู้อำนวยการแห่งชาติของกลุ่มคูคลักซ์แคลน ที่แม้ภายนอกเขาอาจจะดูเป็นชายรูปงาม แต่งตัวดี มีฐานะ พูดจาสุภาพ

 

 

แต่ทัศนคติของดุ๊กที่ต้องการให้กลุ่มคนผิวขาวบริสุทธิ์กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ทำให้เขาพร้อมจะยัดเยียดความเกลียดชังที่ถูกห่อไว้ในวาทกรรมอันสวยหรูให้กับผู้คน เพื่อชักจูงให้คนผิวขาวเหล่านั้นรังเกียจคนผิวดำและเชื้อชาติที่แตกต่างแบบที่เขายึดมั่น เราได้รับชมผลผลิตแห่งความเกลียดชังที่ดุ๊กได้ปลูกฝังเอาไว้ผ่านตัวละครอย่าง ฟิลิกซ์ ภรรยาที่เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มคูคลักซ์แคลนที่จงเกลียดจงชังคนผิวดำและชาวยิวเข้ากระดูกดำ และมักจะยุยงให้สมาชิกใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนผิวดำและชาวยิวอยู่ตลอดเวลา อ่านรีวิวหนังก่อนใคร ได้ที่ รีวิวหนังออนไลน์

แต่หนังเรื่อง BlacKkKlansman ไม่ได้เลือกที่จะนำเสนอให้ผู้ชมเห็นว่ากลุ่มคูคลักซ์แคลนเป็นสัญลักษณ์ของความเกลียดชังในสีผิวและเชื้อชาติที่แตกต่างเพียงอย่างเดียว แต่ความเกลียดชังยังแฝงตัวอยู่ในผู้คนอื่นๆ เช่น นายตำรวจผิวขาวแห่งเมืองโคโรลาโดสปริงส์ที่ใช้อำนาจของตัวเองกดขี่คนผิวดำอยู่เสมอ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมอาชีพอย่าง รอน ผู้เป็นนายตำรวจผิวดำเพียงคนเดียว เรียกได้ว่ามีพฤติกรรม ‘เหยียด’ ไม่ต่างไปจากกลุ่มคูคลักซ์แคลนเลยด้วยซ้ำ

 

 

ความคิดเห็นส่วนตัวต่อหนังเรื่องนี้ 

แต่หากไม่มองว่าหนังเรื่องนี้คือหนังสายลับ  ที่ถือว่ามีความพิเศษในตัวเองอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการเหยียดผิว ที่หนีไม่พ้นจริงๆ ที่บทหนังดึงองค์กร 2 ฝั่งที่กำลังต่อสู้กันในสังคมมาเล่าขนานกันไป ฝั่งนึงคือคูคลักซ์แคลน ส่วนอีกฝั่งคือ กลุ่มคนผิวสีที่ออกมาต่อสู้กับการถูกเอาเปรียบโดยคนผิวขาว ซึ่งความน่าสนใจก็คือทั้ง 2ฝ่ายต่างโดนหัวหน้ากลุ่มของตนเอง ใช้วาทศิลป์ในปลุกปั่น คนในกลุ่มให้เกิดความโกรธเกลียดฝั่งตรงข้าม และสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการปะทะ และความรุนแรงต่อกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบทหนังฉลาดมากที่ชูประเด็นนี้ขึ้นมา เพื่อทำให้สายสืบ ฟลิพ ซิมเมอร์แมน และ สายสืบ รอน สตัลเวิร์ธ ที่แฝงตัวเข้าไปใน คูคลักซ์แคลน ต้องตกอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงอันตรายมากขึ้นทุกที
.
อีกส่วนที่ชอบในภาพยนตร์ก็คือ แม้ว่าBlacKkKlansman พยายามคารวะหนังยุค70s แต่ในขณะเดียวกัน ก็ออกมาตอบโต้สื่อภาพยนตร์ โดยเฉพาะกับภาพยนตร์เรื่อง The Birth of Nation (1915) ซึ่งเป็น “บรมครูของหนังทุกเรื่องในโลกนี้” (และเป็นหนังอีพิกเรื่องแรกของโลก ที่มีความสำคัญในการวางรากฐานการเล่าเรื่องของภาพยนตร์ขนาดยาวมาจนถึงปัจจุบัน) ว่าเป็นตัวการที่ยุยงปลุกปั่น ให้การเหยียดผิวกลับมา มีความรุนแรงมากขึ้น อีกครั้งในอเมริกา ส่วนอีกฉากที่ชอบก็คือ ฟุตเตทการชุมนุมในปี2017 ที่บอกเล่าว่าความเลวร้ายของ คูคลักซ์แคลน ยังคงตกทอดมาถึงคนรุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นฉากที่ทรงพลังมากๆ ดูแล้วรู้สึกมีอารมณ์ร่วม มากกว่าฉากไคล์แม็กซ์จริงๆของตัวหนังซะอีก

 

 

ภาพยนตร์เรื่อง: BlacKkKlansman
ผู้กำกับภาพยนตร์: Spike Lee
ผู้เขียนบท: Charlie Wachtel, David Rabinowitz
นักแสดงนำ: John David Washington, Adam Driver, Laura Harrier
ดนตรีประกอบ: Terence Blanchard
ความยาว: 135  นาที
ปี: 2018
แนว/ประเภท: Biography, Crime, Drama
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/-, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: Netflix / ดูหนังออนไลน์4k
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Focus Features, Legendary Entertainment, Perfect World Pictures, Universa