รีวิวหนัง John wick ss1 แรงกว่านรก
John Wick นักฆ่าระดับตำนาน รับบทโดย คีอานู รีฟส์ ที่ตัดสินใจหันหลังให้วงการใต้ดินหลังจากภรรยาสุดที่รักของเขาเสียชีวิตไป เขาต้องการมาใช้ชีวิตกับสุนัขที่ภรรยาเลี้ยงไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ภรรยาของเขาทิ้งเอาไว้ให้ แต่เขาดันไปมีเรื่องกับมาเฟียนักเลงแถวนั้นที่ปั้มน้ำมัน พอเวลาผ่านไปพวกนั้นมาจัดการจอห์นที่เผลอที่บ้านตอนกลางคืนแต่แค่นั้นไม่พอยังฆ่าสุนัขของจอห์น ทำให้เขาโกรธจัดมากและตัดสินใจกลับสู่วงการอีกครั้ง บทสรุปจะเป็นอย่างไร เมื่อนักฆ่าระดับเทพโดนกระตุกหนวดเสือ เหตุการณ์การไล่ล่าสุดระทึก ยิงกันสนั่นจอ จึงเริ่มขึ้น หากใครอยากรับชม ติดตามได้ที่ ดูหนังออนไลน์
นี่คือหนังแอคชั่นที่สาวกหนังบู๊ทั่วโลกรอคอย กับ อดีตนักฆ่าระดับตำนาน ที่วางมือไปเพราะความรัก และ เขาต้องมาจับปืนอีกครั้งด้วยความโกรธ แค้น ทำให้เขาต้องเข้าสู่วงการนักฆ่าอีกครั้ง เป็นการไล่ล่าสุดมันส์ ที่ไม่มีการปรานี หรือ เมตตา และ ไม่มีใครที่จะหยุดเขาได้ และ เขาคือ จอห์น วิค แรงกว่านรก

เรื่องราวเกี่ยวกับ จอห์น วิค นักฆ่าที่ฝีมือดีที่สุดในวงการนักฆ่า และ หลังจากนั้น เขาได้ตัดสินใจออกจากวงการ เพราะเขาต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบกับคนรักของเขา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้สูญเสียคนรักของเขาไปอย่างกะทันหัน ทำให้เขาเสียใจโศกเศร้ากับ การจากไปของภรรยาเป็นอย่างมาก แต่ก่อนที่เธอจะเสีย เธอได้มอบสิ่งเตือนใจให้กับ จอห์น นั้นคือน้องหมา และ มันเป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับเขามาก ต่อมาได้มีคนบุกรุกบ้านของเขา เพื่อมาขโมยรถคันโปรดของเขา
แถมยังฆ่าน้องหมาของเขาอีกด้วย ทำให้ จอห์น จึงต้องปลุกสัญชาตญาณนักฆ่าในตัวขึ้นมาอีกครั้ง และ เขาจึงเริ่มตามไล่ล่าคนที่ฆ่าน้องหมาของเขา และ วิกโก ซึ่งเป็น หัวหน้าแก๊งค์อาชญากร และ เป็นพ่อของ โยเซฟ ซึ่งเป็นคนที่ฆ่าน้องหมา ของ จอห์น และ วิกโก ก็ต้องการปกป้องลูกของเขาด้วยเหมือนกัน เลยตั้งค่าหัวของจอห์นไว้ที่ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ ที่ มันส์ ระห่ำ และ เขาพร้อมที่จะเอาคืน ทุกคนที่ฆ่าน้องหมาของเขา
และการไล่ล่าล้างแค้นก็ได้เริ่มต้นขึ้น เนื้อเรื่องในหนังคือตามเรื่องย่อที่เกริ่นมาเลย ไม่มีอะไรซับซ้อนให้มึนงงแน่นอน บางคนอาจจะบอกว่าแค่หมาตัวเดียวทำไมต้องไปตามล้างแค้นขนาดนั้น แต่นั่นคือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ของเขา แถมเขายังเป็นนักฆ่าระดับตำนานอีกด้วย การจัดการคนร้ายของจอห์นก็คือสารพัดวิธี ไม่ว่าจะเป็นยิงปืน การใช้มีดที่ชวนเสียว แน่นอนว่ามีการต่อสู้ด้วยมือไม้และกำปั้นก็มีให้ได้ชม แต่สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดก็เห็นจะเป็นโทนสีของหนังที่เน้นบรรยากาศแบบดาร์กเต็มขั้นและรถที่ใช้มาประกอบฉากหากใครที่ชอบรถคลาสสิคก็น่าจะชอบกันนะ
หลังจากที่เขาเริ่มออกล้างแค้นเขาก็ได้รู้ว่าคนที่ฆ่าหมาของเขานั่นก็คือลูกชายของเจ้านายเก่าของเขา ซึ่งทางเจ้านายเก่าเองก็รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของ John Wick จึงได้พยายามเจรจาดีๆ แต่ก็ไม่เป็นผล ก็เลยเกิดเป็นเหตุการบู๊ล้างผลาญที่ทำออกมาได้ดูมีศิลปะ ฉากแอคชั่นในเรื่องในส่วนของการดวลปืนทำออกมาได้ยอดเยี่ยมและดูเพลินมาก หนังนำเสนอได้ดีและเดินเรื่องเร็วมาก ฉากและไฟในเรื่องทำได้ดีมากจนดูเป็นหนังแอคชั่นที่เกินจริง และ John Wick ก็ดูไม่เก่งเกินไปกว่าที่เรื่องราวต่างๆ จะจบลงก็แทบปางตายกันเลยทีเดียว ทำให้เราได้สัมผัสโลกของนักฆ่าที่ดูแฟนตาซีมากๆ เลย

รีวิวหนัง John wick ss1 แรงกว่านรก ความรู้สึกหลังดู
นักแสดงนำที่แบกหนังทั้งเรื่อง คือนักแสดงหนุ่มมาดเท่ห์ผมยาวที่สวมแต่ชุดสูทดำไปจัดการไอ้พวกวายร้ายที่ทำลายน้องหมา และข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ อย่าฆ่าสุนัขใครมั่วซั่วเพราะสุนัขใครใครก็รัก แถมสุนัขตัวนี้ยังเป็นของดูต่างหน้าที่มีคุณค่าทางจิตใจที่สำคัญมากของจอห์น แต่มันกลับถูกฆ่าแบบไร้เหตุผล นักฆ่าจะต้องเป็นคนที่ใช้อาวุธได้สารพัดมากมาย นอกจากจะใช้อาวุธได้อย่างคล่องแคล่ว สัญชาติญาณนักฆ่าก็ทำให้เขามีเซนส์และไหวพริบในการตามติดศัตรูมากกว่าปกติมาก ฆ่าแบบล้างผลาญไม่ไว้หน้าใคร สุดยอดจริงๆ ขอชื่นชม ด้วยความพูดน้อยต่อยหนักนี้กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ตัวละครดูเท่ห์ขึ้น
ถือว่าเป็นหนังแอ็คชั่น มันส์ ระห่ำ สุด ๆ ตัวหนังเต็มไปด้วย ฉากฆ่ากันแบบโหด ๆ ดุ ๆ แต่ก็เป็นไปด้วยความสนุก ลุ้น ระห่ำ สะใจ เป็นที่จัดเต็มมากกับฉากบู๊ และลีลาการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ทำได้ดีทุกรูปแบบเลย จริง ๆ ส่วนเนื้อเรื่องที่เข้มข้นมาก ตัวหนังออกแบบโลกของนักฆ่า ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เราจะเห็นวิธีการต่อสู้ของ ตัวละคร ที่ทั้งเท่ และไม่ธรรมดา และ หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นต่างจากหนังนักฆ่าเรื่องอื่น ๆ ถือเป็นหนังแอคชั่นที่ฆ่ากันได้โหดเลือดสาดมากถึงมากที่สุด บทหนังดีเรียบง่าย แต่ก็แฝงด้วยแง่มุมที่ลึกซึ้ง ๆ และ ตัวหนังมีความน่าสนใจเยอะมาก มันดูยิ่งใหญ่ ตื่นเต้น ลุ้น เพราะตัวหนังดูสนุกตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง
ด้านนักแสดงนำก็ได้ คีอานู รีฟส์ รับบทเป็น จอห์น วิค นี่ถือว่าเป็นอีกจุดที่เพิ่ม เสน่ห์ให้กับหนังได้อย่างดี และ พี่แกเล่นสวมบทบาทของตัวละครได้อย่างมีมิติมาก ยิ่งฉากปะทะอารมณ์กันท้ายเรื่อง เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ ต้องบอกว่ามันส์มาก ทำออกมาได้ถึง ซีนดวลปืนดุเดือด เหลือเกิน
ส่วน CG ทำออกมาดีมาก ส่วนความแปลกตาของหนังเรื่องนี้คือ ฉากแอ็คชั่นที่ มันส์ ระห่ำ เป็นอะไรที่มีเสน่ห์ดี ตัวหนังผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

หากเทียบสัดส่วนของคิวบู๊ในภาคแรก ป๋าคีนู แสดงเองไปถึง 90% ของทั้งเรื่อง (ที่เหลือเป็นสตั๊นท์แมน)
เนื้อเรื่องอาจจะไม่มีอะไรมากนัก แต่โทนเรื่องนี่เจ๋งสุดๆ โทนหนังดูเย็นๆ สีฟ้าๆน้ำเงิน มันเป็นความรู้สึกของความเย็นชาที่ตรงต่อบุคลิกและคาแรคเตอร์ของ John Wick ช่วงแรกดำเนินเรื่องดีมาก เร็ว กระชับ รู้เรื่อง เล่าเรื่องได้น่าสนใจตรงที่ภาพสวย คม ผสมผสานกับโทนภาพเย็นๆที่ดูแล้วส่วนตัวผมชอบอะ ดนตรีประกอบน่าสนใจมากกว่า ใช้เวลาปูเรื่องไม่นานก่อนจะเข้าถึงไคลแมกซ์ สนุก ลุ้นตัวเกร็งกันเลยทีเดียว หนังสร้างความระทึกแฝงความโหดเหี้ยมไร้ความกลัวเกรงความผิด จอห์น วิค ก็เทพสุดๆ ทั้งต่อสู้ท่ามือเปล่าหรือจะถือปืนก็ยิงตายเรียบ
โหด เย็นชา สุขุม ล้ำลึก คาแรคเตอร์ของจอห์น วิค ซึ่งน่าสนใจมาก ไม่ใช่คนหล่อ แต่เป็นคนหน้าตาธรรมดาที่แฝงความเอาจริงเอาจังอยู่ในสีหน้า และเป็นคนอึดถึก ผมชอบที่คาแรคเตอร์นิ่งๆแต่ฟาดเรียบฆ่าไม่เลี้ยง มันเป็นอรรถรสของหนังเลยก็ว่าได้ เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่า ขณะหนังดำเนิน เขาคิดอะไรอยู่ เพราะเขาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเครียด เฉยๆ หรืออารมณ์ดี แต่เวลาโกรธอารมณ์จะออกมาจากแววตา ดุดันและดูเอาจริง ในมุมหนึ่งดูเป็นคนลึกลับ ซึ่งพลังการแสดงของ Keanu Reeves ก็ถือว่ามาเต็มเอาการ
การเล่าเรื่องดีเยี่ยม ในช่วงแรกคุมเนื้อเรื่อง องค์ประกอบทุกๆอย่างไว้ดีมาก ไม่ขาดไม่เกิน ไม่เวิ่นเว้อยืดเยื้อ ทำให้มันสนุกดีได้เต็มที่ แต่ไม่อาจรู้ได้เลยว่าทำไมช่วงกลางกลับดูดรอปลงเสียดื้อๆทั้งที่ก็ไม่ใช่ว่าไม่สนุก แต่บทดูเหมือนจะทิ้งระยะเวลาให้ฉากนิ่งนานไปหน่อย และเริ่มจะหมดมุขสไตล์การต่อสู้ กลายเป็นว่าช่วงยิงกันกลางๆเรื่องดูเหมือนหนังแอ๊กชั่นธรรมดาไปแล้วดูยิงไม่มีจุดประสงค์ เจอคนร้าย ยิง ซึ่งก็เลยพาลหาเรื่องเข้าตัวเองโดนจับไปอีก ทั้งที่จุดประสงค์คือการยิงจอมบงการคนที่ฆ่าหมาของเขาไม่ใช่เหรอ
ช่วงท้ายทุกอย่างดูง่ายๆ แม้จะยังเน้นหนักเรื่องแอ๊คชั่น แต่ความเข้มความดุดันของจอห์น วิคกลับไม่เป็นเสน่ห์อีกต่อไป เพราะถูกการเล่าเรื่องง่ายๆกลบไป ความน่าสนใจหายไปเยอะเลยทีเดียว และดึงกลับมาไม่ได้เหมือนตอนแรกๆ สำหรับผมถือว่าเป็นความล้มเหลว เพราะมันเกือบจะดีแล้วเชียว
แต่ John Wick ในมุมของผมเป็นหนังแอ๊คชั่นที่ไม่ธรรมดา ชอบดนตรีประกอบที่ลุ้นสะใจ แปลกดีที่เวลาดู หูจะสนใจฟังดนตรีมากกว่า เล่าเรื่องได้มีลูกเล่น น่าสนใจและดูสดใหม่ หนังมีมิติด้วยโทนภาพ การเล่าเรื่อง มีชั้นเชิงแม้เรื่องราวจะไม่อะไรไม่มาก แต่ก็เรียกว่าสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาสไตล์หนังแอ๊กชั่นแต่ไม่กลบเสน่ห์ความเป็น John Wick ใครที่ดูแล้วจะรับรู้ได้เลยว่า หนังเรื่องนี้พลังหนักแน่นกว่าหนังแอ๊กชั่นที่พล็อตหลวมปลวกการเล่าเรื่องจึงต้องหลวมตาม ไม่ใช่สำหรับ John Wick ถึงแม้ช่วงท้ายดูอ่อนลง แต่พลังและความหนักแน่นก็ยังคุมได้ดีจนจบ ไม่มีอะไรน่าติติงหรือตงิดใจ
ดูเหมือนว่าประเด็นหลักๆที่ John Wick ลุกขึ้นมาฆ่าคนอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะโดนขโมยรถ หรือโดนหมายหัว
ใครจะไปคิดว่าการฆ่าของเขาครั้งนี้ ต้นเหตุมาจากคนที่ทำให้ หมาของเขาตาย
หากลองมาพิจารณาสักนิดถึงประเด็นของเรืองก็จะไม่แปลกใจเท่าไรว่าทำไมจอห์นถึงได้โกรธแค้นเช่นนี้ เพราะหมาของเขาเป็นเหมือน ตัวแทน ของความหวังเนื่องจากภรรยาของเขาตาย และมันเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากภรรยา มันเหมือนมาเติมเต็มความอ้างว้างที่ขาดวิ่นให้มีกำลังใจในการใช้ชีวิตของเขาอีกครั้ง สิ่งที่จอห์น วิค ทำมีเหตุผล แม้มันจะดู ไร้ศีลธรรม หรือรุนแรงเกินเหตุ ถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลยเหรอ แต่ด้วยคาแรคเตอร์ของจอห์น วิค เขาจริงจัง มุ่งมั่น และเอาจริงกับทุกเรื่อง การที่เขาตามล่าพวกคนไม่ดีที่ทำกับเขาเช่นนี้ ถือเป็นความถูกต้อง แม้สิ่งที่ทำมันจะไม่ถูกต้องก็ตาม
หนังเรื่องนี้แฝงอะไรเอาไว้มากมายกว่าที่เห็น
จุดที่น่าสังเกตของหนังเรื่องนี้คือ พระเอกเราโชว์บู๊เยอะไปหน่อย และค่อนข้างใจใช้ความสามารถได้สิ้นเปลือง จุดประสงค์คือจะฆ่าลูกชายมือฆ่ามหาโหด แต่มัวแต่ต่อสู้กับบอดี้การ์ดมัน ยิงคนนึงก็ปาไปสองสามนัด ดูแล้วเสียดายลูกกระสุน แถมยังไม่ไล่ตามลูกชายไอ้หมอนั่น แต่ต้องจัดการบอดี้การ์ดมันให้เสร็จก่อนถึงจะไปได้ ผมว่ามันไม่จำเป็น ด้วยความสามารถขนาดนี้ของจอห์น วิค ดูเป็นฉากการอวยพระเอกที่ยืดยาวไปหน่อย แต่ถามว่าเรียกคะแนนจากคนดูได้ไหมก็ต้องบอกได้เลยว่าได้ผลมากครับ เพราะคนที่จะมาดูหนังเริ่องนี้ต้องการที่จะดูฉากบู้อยู่แล้ว ไม่ได้สนใจความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่องเท่าไรหรอก
บทสรุปค่อนข้างง่าย เหมือนเป็นการเร่งจังหวะสุดท้ายที่มี ทั้งตัวร้ายก็ไล่ฆ่าคนทรยศที่วานจ้างมาฆ่าจอห์น วิค ส่วนจอห์น วิค ก็เลยตามไปฆ่าครั้งสุดท้าย แต่ไม่สรุปว่าหัวหน้าอาชญากร(พ่อของลูกชายที่ฆ่าหมาเขา)ที่เขาเคยทำงานด้วยตายรึเปล่า ตอนจบโดนแทงมีดกันทั้งสองคน จอห์นวิควิ่งโซเซออกไป และก็ตามที่เปิดเรื่อง รถขับมาชนกำแพง จอห์น วิคออกมาจากรถในสภาพพร้อมตาย ดูวิดีโอเมียตัวเองตอนยังมีชีวิตอยู่ แล้วก็ลากร่างไปที่สถานที่ที่คล้ายคลีนิกสัตว์ เลยเลือกหมามาตัวนึง จูงออกไป สงสัยคงอยากได้เพื่อนใหม่อีก แล้วก็จบ คาดว่าเป็นการปูทางสู่ภาคสองแน่ๆ
ข้อสังเกตอีกอย่าง เรื่องนี้อาจจะไม่มีตำรวจก็ได้ครับ เห็นแค่ตอนแรก ที่จอห์น วิคฆ่าคนที่ถูกส่งมาฆ่าเขาชุดแรก ตำรวจเพื่อนซี้มาโผล่หน้าบ้านบอกว่ามีคนโทรแจ้งเรื่องเสียงรบกวน แต่จากนั้นก็ตำรวจก็ไปดื้อๆทั้งที่เห็นศพคนในบ้านพระเอก ถ้าไม่ใช่เพราะจอห์นซี้กับตำรวจ ตำรวจก็คงกลัวเพราะรู้ว่า จอห์น วิค เป็นใคร แต่หลังจากนั้นเหตุยิงกันตู้มต้ามในผับ ในโรงแรม ไม่มีการพบศพ ไม่มีการแจ้งตำรวจ ไม่มีออกข่าวจลกรรม เพราะคิดว่าถ้ามี จอห์น วิคคงโดนเรียกเก็บตัว หากมีภาคสอง จอห์น วิคจะอยู่เฉยๆเหรอ ในชีวิตจริงก็คงหนีอะ
ข้อเสียของหนังเรื่องนี้คือความสมเหตุสมผลซึ่งไม่มีเลยทำให้เกิดคำถามตามมาตลอด อย่างเรื่องตำรวจไม่มีใครจะคิดมาจัดการ ยิงกันเสียงดังสะนั่นนานขนาดนั้นตำรวจไม่โผล่มาเลย ถือเป็นความงงงวย ไม่ทราบว่าทีมงานหนัง ผกก. ตั้งใจให้เป็นแบบนี้หรือเล่นเอามันส์จนลืมความเป็นจริงไป
หากชอบบทความนี้ สามารถติดตาม รีวิวหนัง สปอยหนัง เรื่องอื่นๆ ได้ที่
สปอยหนังดี
