รีวิว Django Unchained

รีวิว Django Unchained

วันนี้จะมารีวิวหนังบู้แนว คาวบอยกันบ้างครับ เป็นหนังเก่าแต่บอกตามตรงว่าชอบมาก นั่งดูไปลุ้นไป เกร็งไป ไอ้ที่ลุ้นที่เกร็งจะเป็นช่วงกลางๆเรื่องเป็นต้นไปละ มีฉากสะเทือนอารมณ์อยู่หลายฉากเหมือนกัน เป็นหนังคาวบอยอีกเรื่องที่แอดคิดว่า โหดแบบหอมปากหอมคอ มีรับได้บ้างรับไม่ได้บ้าง ถึงจะโหดแค่ไหนก็ยังแฝงไปด้วยความตลก มุกขำๆให้มีคลายเครียดกันบ้าง ดูหนังออนไลน์2022 ใครว่างๆอยากหาหนังคาวบอยยิงกันมันส์ๆมาดูสักเรื่อง แอดว่าเรื่องนี้ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

เปิดมาช่วงต้นเรื่องก็ดาร์กเลย (หวังว่าคงไม่หลุดมาจาก DC) ล่ามโซ่กันมาเป็นพรวน แอดยังคิดนะในช่วงยุคสมัยนั้นมันคงเป็นอะไรที่ป่าเถื่อนมากๆ (เฉพาะบางพื้นที่นะไม่ได้เหมารวมทั้งหมด) ดูแล้วสงสารคนที่ตกเป็นทาสมาก เพราะเรื่องนี้ประเด็นหลักทั้งหมดเกี่ยวกับการค้าทาสล้วนๆ การเหยียดผิว ทำกับคนเหมือนไม่ใช่คน มีหลายๆฉากที่แอดถึงกับหรี่ตาดู มันโหดมาก เลือดเรื่องนี้ใช้คุ้มมาก ค่อนข้างสิ้นเปลืองสุดๆ5555555 (บางฉากเลือดพุ่งแล้วทำไมแอดฮา แบบพุ่งเยอะไป)

ถ้าใครได้ติดตามผลงานแต่ละเรื่องของเควนติน ตาแรนติโน่ในแต่ละเรื่องนั้นมักจะเห็นได้ว่า เขามีผลงานที่น้อยแต่ปริมาณความสนุกกลับเยอะมากๆ ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า ผลงานในช่วงยุค 90 นั้นจะเต็มไปด้วยแนวอาชญกรรมปนตลกร้ายสไตล์กวนทรีน และช่วง 2000s ขึ้นไปนั้นจะเป็นผลงานทีเต็มไปด้วย การคารวะจากหนังเก่าปนรีมิกใหม่สังเกตุได้จาก Kill Bill ทั้ง 2 ภาค และผลงานหลังจากช่วง 2000s อย่าง Inglourious Basterds จะเป็นการเสียดสีปนยำต่างๆในประวัติศาสตร์ (หลายแนวจังนะ) จนตลอดผลงานเรื่องล่าสุดอย่าง จังโก้ อันเซน นั้นก็มีการเสียดสีเหมือนกัน

 

 

ซึ่งหลายท่านอาจคิดว่า เควนตินแมร่งหลายแนวจังวะ แต่ไม่ต้้องห่วง เพราะว่าหนังทุกๆเรื่องของเควนติน ตาแรนติโน่ นั้นจะเน้นไปด้วยบทสนทนากวนๆ และบทสนทนามันต้องเยอะแน่ๆ และมันต้องมีฉากโหดเลือดกระจายในปริมาณที่พอดี (ถ้าเลือดสาดๆนั้นขอแนะนำไปทางของโรเบิร์ต ร็อดดวิเกวซครับ ท่านนั้นก็โหดเกิน)

ความสนุกของหนังแอดต้องยกให้ช่วงท้ายๆเรื่องละ จากต้นเรื่องมาเรื่อย ๆ แจงโก้ก็ฝึกฝีมือพัฒนาตัวเองจนมาถึงรังโจร อันนี้มันส์สะใจจริง จุดพีคที่แอดชอบที่สุดคงเป็นฉากของเฮียลีโอของเรา ที่เล่นจริงเจ็บจริงไม่ใช้ตัวแสดงแทน ตอนนั่งดูแอดโคตรอินอะ (เจ็บแทนไม่ใช่ไร) นักแสดงมืออาชีพต้องแบบนี้ปรบมือให้รัวๆ ดูจบแล้วอยากจะลุกมาดวลปืนกับใครสักคนยิ่งฉากจบก็เท่ไปอีก ไอ้แจ้งโก้นี่มันเท่จริง ๆ นะ

และมาว่าถึงผลงานเรื่องล่าสุดของเฮียเควนตินกันครับ ดูหนังออนไลน์2021 พากย์ไทย ซึ่งหากจะบอกว่านี่คือการคารวะหนังคาวบอยก็ไม่ผิด เพราะจริงๆแล้วเควนตินเราก็คารวะหนังคาวบอยอิตาเลี่ยนที่เขาชอบอย่าง Django (1966)

นอกจากจังโก้ 1966 แล้ว ก็นำมายำกับหนังเรื่องอื่นๆอีก 4 เรื่องทั้ง Taxi Driver / Bonanza / Son of a Gunfighter และ Star Wars The Empire Strikes Back (หาาาาา) ซึ่งดูเหมือนว่าเควนตินได้ผสมสองแนวกันระหว่างการเสียดสีประวัติศาสตร์กับการคารวะมารวมกัน แถมเป็นการผสมกันได้ลงตัวซะอีกเนี่ย

ทีนีก็มาว่าถึงเนื้อเรื่องกันดีกว่าครับ เนื้อเรื่องนี่เกี่ยวกับอดีตหมอฟันผันตัวเป็นนักฆ่าล่าหัวนาม ดร.คิง ซูล์ท (คริสตอฟ วอลซ์) ซึ่งมีหัวใหม่ให้ล่าคือสามพี่น้องตระกูลหนึ่ง แต่ปัญหาคือซูล์ทไม่เคยเห็นหน้าตาที่แท้จริงของสามพี่น้องนี่ ทำให้เขาเดินทางไปการปลดโซ่ตรวนให้กับทาสนามจังโก้ (เจมี่ ฟ็อกก) เพราะเขาเคยเห็นหน้าสามพี่น้องนี่มาก่อน

ซึ่งหลังจากที่ซูล์ทได้ปลดโซ่ของจังโก้ให้เป็นอิสระแล้ว ถึงเวลาแล้วที่จังโก้จะได้ถือปืนมาฆ่าพวกสามพี่น้อง เพราะว่าสามพี่น้องนี่เคยมีอดีตเลวร้ายกับจังโก้มาก่อน หลังจากกำจัดสามพี่น้องเสร็จแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่จังโก้ยังทำไม่สำเร็จคือเมียของเขาถูกจับไปเป็นทาสในเมืองแคนดี้ แลนด์ ซึ่งเจ้าของไร่ที่นี้คือ คาลวิน แคนดี้ (ลีโอนาโด้ ดิคาปริโอ) เศรษฐีจอมโหด ทำให้จังโก้และซูล์ทต่างร่วมผจญภัยตามหาเมียของจังโก้กัน

นอกจากหนังคาวบอยคือหนึ่งในหนังแอคชั่นคลาสสิคที่ไม่ได้ไปเน้นเรื่องมันส์ แต่จะเน้นเรื่องไว จึงทำให้หนังคาวบอยคือหนังคลาสสิคอีกแนวตลอดกาล และทางฝั่งอิตาลี่นั้นขึ้นชื่ออยู่แล้วในการทำหนังคาวบอยได้เจ๋ง จนถึงขั้นเรียกได้ว่ามีแนวที่ชื่อ Spaghetti Western ไปเลย

ตั้งแต่ Dialog ทุกอย่าง รายละเอียดเล็กๆน้อยๆนั้น บทสนทนาที่ต้องมีที่เควนตินมักใส่ใจ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง และนำมาแต่งเติมลงบทหนังเรื่องนี้ให้กลายเป็นหนังคาวบอยฮิบฮอบไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ในปี 2013 ภาพยนตร์อย่าง Django Unchained : จังโก้ โคตรคนแดนเถื่อน ก็สามารถมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 3 รางวัลด้วยกันในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงสบทบชายยอดเยี่ยม และ สาขาบทภาพยนต์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม แล้ว สามารถคว้ารางวัลไปถึง 2 รางวัลด้วยกัน กับสาขา นักแสดงชายสบทบยอดเยี่ยม และ บทภาพยนต์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมมาครองในปีนั่น

รีวิว Django Unchained ความน่าสนใจของหนัง

สำหรับ Django Unchained ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่ถึงอย่างไรแฟนคลับของ Quentin Tarantino ก็ต้องดูกันอยู่แล้วอย่างแน่นอน แต่สำหรับบางคนที่อาจจะหลงๆ มาเพราะชอบหนังแอคชั่นคาวบอยแล้วนั้นเรื่องนี้ก็ยังตอบโจทย์ได้มากอยู่ เพราะโทนตลอดเรื่องมันก็เป็นเช่นนั้น แต่เติมความแหวกแนวเข้าไปอยู่ไม่น้อย ทำให้บางจังหวะเราอาจจะได้ยินเพลงแรพเข้ามาในเรื่องอยู่หลายๆ ครั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องนับว่ามันเป็นคาวบอยท่องโลกที่ดี มีประเด็นเหยียดสีผิวเข้มข้น รวมถึงยังอุดมไปด้วยดาราเกรด A มากมายจนไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ นอกเหนือจากหนังเควนตินเรื่องที่เหลือแล้ว ใครชอบหนังสไตล์คาวบอยตะวันตกอย่าง 3:10 To Yuma, True Grit ที่เพิ่มระดับความยียวนเข้าไปแล้ว เรื่องนี้คือโดนใจแน่นอน

และทางฝั่งอิตาลี่นั้น ได้มีหนังคาวบอยอีกเรื่องหนึ่งที่มาดังในตอนหลังซะงั้น นั้นคือ จังโก้ จึงเพราะว่าทางฝั่งนักแสดงอย่าง ฟรังโก้ เนโร นั้นได้ถุกตัวไปแสดงในหนังของ Warner เรื่้อง Camelot ซึ่งในระหว่างพักกองนั้น เนโรก็ได้เปิดเรื่อง จังโก้ ไปผลปรากฎว่าทางทีมงานชอบมากๆ จนถึงขั้นถูกนำไปฉากในฮอลลีวูดจนดังในตอนหลังซะเลย จึงเรียกได้ว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังคาวบอยทุนต่ำและโครตคัลท์ไปเลยก็ว่าได้

นับว่า จังโก้ ถ้าคุณดูในตอนกลางคืนแบบผม หรือดูไม่คิดอะไรเลย คุณอาจจะหลับแบบผมในช่วงใกล้ท้ายๆเรื่อง ดังนั้นจึงต้องตั้งใจดุมากๆ แต่ตัวหนังเป็นหนังคาวบอยรุ่น SW ที่ทำำออกมาได้ดิบจริงๆนอกจากฉากแอคชั่นสุดไวแล้ว ยังมีคำพูดและความเท่ห์ที่ยงโดนใจไม่แพ้ คลินท์ อีสวูด อีกด้วย

 

 

ซึ่งทำให้ทีมงานต่างพากันชอบจนถึงขั้นหนังคาวบอยเรื่องอื่นๆรีบเกาะกระแสใช้ชื่อ จังโก้ จนถึงขั้น จังโก้จริงๆต้องมีภาค 2 ในปี 1987 แต่สุดท้ายก็ทำให้ภาคสองกลายเป็นภาคที่เงียบไปเลย นอกจากความไม่สนุกแล้ว ยังหมดบรรยากาศแบบคาวบอยไปเลย กลายเป็นแรมโบ้ยังไงยังงั้น

และยังจำได้เลยว่า ในไทยเราก็ฮิตมากๆ ดังระเบิดระเบ้อจนถึงขั้นที่ว่าต้องมีจังโก้จีนแดงที่ หนังคาวบอยเรื่องอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับจังโก้แต่ในไทยก็ใช้ชื่อจังโก้เพื่อเรียกลูกค้าเลยก็ว่าได้  หนังเลือกเล่าเรื่องในช่วงเวลาที่ไปไกลก่อนจะมีสงครามกลางเมืองเกิดขึ้น เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคนสองคน คนหนึ่งผิวขาว อีกคนผิวดำ คนผิวขาวเรียกตัวเองว่าเป็นหมอฟัน หากแต่อาชีพจริงๆ รีวิวหนังบู้ คือ นักล่าค่าหัว เมื่อเจอกับเป้าหมายการล่าที่ค้นหาได้ยาก ก็ทำให้เขาต้องพึ่งทาสเก่าแก่ของพวกมัน เมื่อ Dr. King Schultz (Christoph Waltz) เลือกจะช่วย Django (Jamie Foxx) ทาสผิวดำคนหนึ่งให้เป็นอิสระด้วยเงื่อนไขการช่วยค้นหาและฆ่าเจ้านายเก่าของจังโก้ แต่กาลต่อมา พวกเขากลายเป็นคู่หูในภารกิจหาเงินจากอาชีพนักล่าค่าหัวในที่สุด

เมื่อจังโก้ขอให้ ดร.ชูลต์ช่วยตามหาและช่วยเหลือดึงตัว บรูมฮิลดา (Kerry Washington) ภรรยาสาวสุดรักที่กลายเป็นคนทาสในบ้านของตัวร้าย คาลวิน แคนดี้ (Leonardo DiCaprio) ด้วยข้ออ้างอย่างปลอมๆ ที่ทำให้เจ้าของบ้านเชื่อได้ หากแต่สตีเฟน (Samuel L. Jackson) คนสนิทผิวดำของแคนดี้กลับไม่เชื่อ และนั่นทำให้เกิดเหตุการณ์อันเร้าใจ สะใจและนองเลือดอย่างยิ่งในช่วงที่เหลือของหนัง

 

 

หนังคุณภาพการันตีรางวัล

“จังโก้ โคตรคนแดนเถื่อน“ ได้รับรางวัลอะคาเดมีอะวอร์ดในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม – Christoph Waltz และสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม – Quentin Tarantino ซึ่งจะว่าไปแล้ว นักแสดงหลายๆ คนในเรื่องก็แสดงบทบาทได้ดีจนน่าจะได้ออสการ์เสียด้วยซ้ำ ขณะที่ในส่วนของบทและการดำเนินเรื่อง เท่าที่นั่งอยู่ในโรงหนังก็ได้ยินทั้งเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือจากรอบๆ ข้างเป็นระยะ แสดงให้เห็นว่า หนังสร้างอารมณ์ร่วมของคนดูได้เป็นอย่างดี

 

 

ชื่อภาพยนตร์: Django Unchained / จังโก้ โคตรคนแดนเถื่อน

ผู้กำกับภาพยนตร์: Quentin Tarantino

ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Quentin Tarantino

นักแสดงนำ: Jamie Foxx, Christoph Waltz, Leonardo DiCaprio, Kerry Washington, Samuel L. Jackson

รีวิวหนังบู้ออนไลน์

แนว/ประเภท: Adventure, Drama, Western

เรท: ไทย/ , USA/R

ความยาว: 165 นาที

ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: The Weinstein Company, Columbia Pictures

รับชมได้ที่ เว็บดูหนัง