รีวิว WRATH OF MAN
รีวิว Wrath of Man คนคลั่งแค้นปล้นฝ่านรก (202) ชายลึกลับคนหนึ่งจากบริษัทขนเงิน ได้สร้างความตกตะลึงให้กับเพื่อนร่วมงาน เมื่อการปล้นครั้งหนึ่ง เขาได้เผยทักษะการต่อสู้อันยอดเยี่ยม การสังหารอันเฉียบขาดเพื่อรับมือกับผู้ก่อเหตุครั้งนี้ คนคลั่งแค้นปล้นฝ่านรก จะสนุกสนานมากแค่ไหน มีจุดไหนน่าสนใจบ้าง เชิญติดตามรับชมรับฟังจากรีวิวนี้ได้เลยครับ และถ้าหากใครอยากรับชมหนังเรื่องนี้ แบบสะใจสามารถติดตาม หนังเรื่อง คนคลั่งแค้นปล้นฝ่านรก เรื่องนี้ได้ที่ เว็บดูหนังฟรี
คนคลั่งแค้นปล้นฝ่านรก เล่าเรื่องราวของบริษัท ฟอร์ติโก้ ซีเคียวริตี้ทำกิจการขนส่งของมีค่าโดยเฉพาะขนเงิน วันหนึ่งรถของบริษัทถูกกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งปล้น พนักงานเสียชีวิตทุกคน เลยทำให้ขาดพนักงาน
แต่แล้ววันหนึ่ง ในขณะที่ทั้งสองคนกับเพื่อนร่วมงานอีก 1 คน ได้ขับรถไปขนเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ก็มีกลุ่มโจรเข้าปล้นรถขนเงิน (ดูเหมือนว่าบริษัทนี้จะ เป็นแม่เหล็กดูดโจร ถูกปล้นรถขนเงินอยู่ตลอดเวลา) เอส ไม่ยอมทำตามมาตรการของบริษัท ต่อสู้กับโจรพวกนั้นแบบไม่ฟังเสียงบุลเลท ด้วยการยิงปืนที่แม่นยำ จิตใจเรียบนิ่งไม่เกรงกลัว ก็เก็บพวกโจรเสียชีวิตทุกคนอย่างรวดเร็ว ทักษะที่น่ากลัวของเอชก็ถูกเปิดเผยในครั้งนั้น (เกือบซวยแล้วครับ และเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เชื่อมโยง เนื่อเรื่อง ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ)
ทุกคนในบริษัทต่างเริ่มสงสัยว่า เอช คือใคร เพราะเหตุใดถึงเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งนี้ ระหว่างนั้น เอส ก็ทำการสืบบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในบริษัท แล้วก็เปิดเผยภายหลังว่า เขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาเป็นถึงหัวหน้ากลุ่มมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุด มีความเลือดเย็นมากที่สุด และเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การปล้นรถขนเงินในช่วงต้นเรื่อง เอชต้องตามล่ากลุ่มโจรที่ปล้นรถขนเงินในครั้งนั้น เพื่อแก้แค้นให้กับใครบางคนที่เขารัก
เรื่องราวของ Wrath of Man คนคลั่งแค้นปล้นฝ่านรก จะดำเนินต่อไปอย่างไร ก็ขอให้ทุกท่านติดตามรับชมต่อได้ทาง ดูหนังออนไลน์เลยครับ
รีวิว WRATH OF MAN เนื้อเรื่องโดยย่อ
เอาเป็นว่าแค่เปิดฉากแรกออกมา ร้องว้าวกันแน่นอนครับ ก็รู้ทันทีว่านี่คือหนังของ กาย ริชชี่ โดยแท้ เพราะลายเซ็นในการทำหนังแอคชั่นของเขากลายเป็นสูตรสำเร็จ ที่เกือบจะสำเร็จรูปไปแล้วด้วยซ้ำ แม้จะมีความคลีเช่หรือจำเจอยู่บ้าง แต่เขาผู้นี้กลับงัดลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ เข้ามาใส่ได้ถูกที่ถูกจังหวะ ทำให้หนังบู๊ที่เต็มไปด้วยความซ้ำซากแบบเดิมๆ เนื้อหาคุ้นเคย แทบหาความแปลกใหม่ไม่ได้ กลับมีพละกำลังโดดเด่นขึ้นมาด้วยการนำเสนอและเล่าเรื่องตามสไตล์ริชชี่
แน่นอนว่าเอกลักษณ์โดดเด่นในหนังของกาย ริชชี่ ก็คือแคสติ้งนักแสดงชายเป็นหลัก เรื่องนี้ก็เกือบจะเป็นหนังชายล้วนอีกแล้ว แต่ยังมีนักแสดงหญิงเข้ามาเสริมประปรายอยู่บ้าง ความกำยำและขึงขังของเหล่าชายหนุ่มที่เต็มไปทั้งเรื่อง ทำให้ภาพรวมของหนังก็ดูเข้มข้นและหนักแน่นตามไปด้วย
ถ้าให้ดูกันดีๆ การใส่ใจในรายละเอียดของแต่ละตัวละครในหนังเรื่องนี้นั้น เป็นจุดด้อยที่สุดของหนัง เพราะคาแรกเตอร์ที่เยอะไป สร้างมิติให้ได้ไม่หมด จึงออกมาในรูปแบบตื้นเขินไปเกือบทั้งหมด
หนังของ Guy Ritchie โดยปกติแล้ว ส่วนมากแล้วจะไม่ค่อยเห็น ฉากแอ็คชั่น บู้ล้างผลาญ อะไรเยอะแยะมากมาย แต่จะเล่นกัน เนื้อหาที่เข้มข้นชวนติดตาม และเล่าเรื่องตาม แบบฉบับของตัวเอง แล้วค่อยตบทุกอย่างกลับมา ขมวดกันทีเดียว ให้มันพีคขึ้นในตอนท้าย ซึ่งเรื่องนี้ก็เช่นกัน ฉากแอ็คชั่นไม่ได้มีเยอะ เจสัน แทบไม่ได้โชว์สกิลอะไรสักเท่าไหร่ แต่กลับกลายเป็นบทที่ส่งให้เขาดูนิ่งแต่โหด และดูแตกต่างจากหลายๆ เรื่องที่เราติดตา แถมยังมีความเป็น ชูหนังเน้นไปทางระทึกขวัญ ที่เข้มข้นเข้ามาเดินเรื่องอีกต่างหาก ดูเรื่องนี้ แล้วรู้สึกคุ้มๆ รีวิวหนังบู้
ภาพยนตร์เรื่อง: Wrath of Man / คนคลั่งแค้น ปล้นผ่านรก
ผู้กำกับ: Guy Ritchie
ผู้เขียนบท: Éric Besnard, Guy Ritchie
นักแสดง: Jason Statham, Holt McCallany, Josh Hartnett
ความยาว: 119 นาที
แนว/ประเภท: Action, Crime, Thriller
เรท: R
อัตราส่วน: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ช่องทางการรับชม: เว็บดูหนังฟรี4k
วันเข้าฉายในไทย: 29 กรกฎาคม 2021
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Metro-Goldwyn-Mayer (MGM), Miramax, CAA Media Finance
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูจบ
Wrath of Man คนคลั่งแค้นปล้นฝ่านรก เป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดย กาย ริตชี่ ที่เคยฝากผลงานภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์มาแล้วหลายเรื่อง และรวมถึงภาพยนตร์ที่มีแนว Gangster อีกไม่น้อย จึงสามารถการันตีได้ในระดับหนึ่งว่า คนคลั่งแค้นปล้นฝ่านรก น่าจะสนุกและมีอะไรน่าติดตามพอสมควร
และเมื่อดูแล้วก็สมฝีมือของกาย ริตชี่ โดยส่วนตัวแล้วผมชอบวิธีการเล่าเรื่อง เขาไม่ได้เล่าเรื่องแบบเรียงลำดับเวลา รู้ว่าควรจะเอาจุดไหนมาพูดก่อน ควรจะจุดไหนไปไว้ที่หลัง แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้เราดูยากนัก เพราะเมื่อดูจนจบเรื่องจะสามารถติดต่อเรื่องราวได้เอง มีการเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นรถไปตามแต่ละมุมมองของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นตัวละครของแพทริค ฮิลล์ หรือ กลุ่มของพวกโจร และด้วยการเล่าเรื่องแบบไม่ได้ลำดับเช่นนี้ จึงทำให้เนื้อเรื่องที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีอะไร มีความน่าสนใจขึ้นมาทันที
เจสัน สเตแธม กลับมารับบทนักบู๊และเจ้าพ่อมาเฟียผู้เคร่งขรึม หนังทำให้เราเห็นว่าตัวละครแพทริค ฮิลล์ เป็นคนมุ่งมั่นจริงจัง ไร้ความปราณีและเป็นตัวอันตรายมาก ๆ แต่ก็เป็นคนที่ยึดมั่นในหลักคุณธรรมไม่น้อย แต่ส่วนตัวแล้วผมกลับรู้สึกเสียดายอย่างหนึ่งก็คือ แม้ว่าภาพรวมของตัวละครนี้จะดูดี ดูโหด ดูเก่งไร้เทียมทาน แต่หนังเขาก็ทำให้เราเห็นฝีไม้ลายมือวิธีการต่อสู้ หรือคิวบู้ต่าง ๆ ของตัวละครตัวนี้น้อยมาก น้อยจนทำให้รู้สึกว่าเสียดายฝีมือของเจสัน สเตแธม ไปเลย
นอกจากนี้สิ่งที่ผมรู้สึกว่าเสียดายก็คือ แม้หนังจะสร้างปมเอาไว้ดี ความยากของการแก้ไขสถานการณ์ก็ถือว่าดี หรือแม้แต่ความอันตรายของพวกกลุ่มโจรก็ถือว่ามีไม่น้อย เพราะเป็นถึงระดับทหารผ่านศึกอัฟกานิสถาน แต่เมื่อถึงเวลาที่พระเอกของเรื่องจะเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ ก็กลับกลายเป็นว่าแทบไม่ได้โชว์ความสามารถของพระเอก
สถานการณ์บางอย่างกับคลี่คล้ายไปด้วยตัวของมันเองเฉยเลย หลายจุดดูแล้วรู้สึกว่า แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ? ตัวละครหลายตัวตายแบบนั้นได้ด้วยหรอ? มันไม่ค่อยสะใจ ทำให้หนังที่มีอารมณ์ของความเป็นหนังแนวแก้แค้น หายไปเยอะมาก ยิ่งฉากจบของเรื่องกับการจัดการกับตัวละครบางตัว มันง่ายจนรู้สึกว่าเหมือนพระเอกไม่ได้พยายามอะไรมากมายนัก
เรื่องการลงทุน Production บรรยากาศของเรื่อง อะไรต่าง ๆ นั้นก็ถือว่าทำได้ดีในระดับหนังที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ หาหได้ดูในโรงภาพยนตร์ก็คงไม่รู้สึกว่าเสียดายเงินมากนัก ฉากระเบิดตูมตามถือว่าทำได้ดี ฉากยิงปืนใส่กันถือว่ามันหยด แต่เสียดายเรื่องการแก้ไขสถานการณ์ และความสามารถของพระเอกนั่นแหละที่ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันทำลายความดีงามเหล่านั้นลดลงไปพอสมควร
เอาเป็นว่าหากใครชื่นชอบฝีมือการแสดงในด้านแอคชั่นของ เจสัน สเตแธม ก็ไม่ควรพลาดชม Wrath of Man คนคลั่งแค้นปล้นฝ่านรก เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คิดถึงบทบาทในด้านนี้ไปได้ แต่ถ้าใครคิดว่าจะดูหนังแอคชั่น ที่มีการต่อสู้แบบจริงจัง โชว์ฉากแอคชั่นอะไรเหล่านั้น ผมว่าน่าจะผิดหวังพอสมควร แต่โดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดี ในระดับที่ควรจะเป็นครับ รีวิวหนังบู้