รีวิว Inglourious Basterds

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวหนังสงคราม เรื่อง Inglourious Basterds จากเสด็จพ่อ Quentin Tarantino ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งหนังสงครามที่ให้มากกว่าความระเบิดเถิดเทิงเหนือการคาดเดา ฉากหลังของการโต้กันไปมาระหว่างฝ่าย “The Basterds” ที่ชื่นชอบการไล่ล่าถลกหนังหัวเหล่าทหารนาซี ก็มีส่วนที่ทำให้เห็นว่าชีวิตคนธรรมดาคนหนึ่งได้รับผลกระทบอะไรจากสงครามบ้าง เพราะสงครามไม่เคยมีผู้ชนะ มีแต่ความสูญเสีย  สามารถรับชมหนังสงครามได้ทุกเรื่องที่ ดูหนัง

“ยุทธการเดือดเชือดนาซี” เมื่อประวัติศาสตร์ถูกเขียนใหม่โดย เควนติน แทแรนติโน Inglourious Basterds เป็นหนังบิดเบียนความจริงแต่อิงเรื่องจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และจัดเป็นหนังตลกร้าย เสียดสี เต็มไปด้วยไดอะล็อกเชือดเฉือน หนังว่าด้วยเรื่องราวการฆ่าชาวยิวของนาซีตามคำสั่งท่านผู้นำ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ทำให้เกิดกลุ่มชาวยิวรวมตัวกันเพื่อกำจัดทหารนาซี และวางแผนสังหารท่านผู้นำโดยใช้สถานที่เป็นโรงภาพยนตร์ ตัวละครสมมติในเรื่องถูกสร้างมาเพื่อสนองความบันเทิงและสนองความเดือด ส่วนตัวละครในเรื่องแม้ว่าจะเยอะแต่ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เควนตินจะให้ตัวละครจับพลัดจับพลูมาอยู่ในเหตุการณ์เดียวกันพร้อมทั้งสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก ความสนุกของหนังจึงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกนาทีข้างหน้า หลังจากตัวละครพ่นไดอะล็อกกันเป็นไฟ

 

 

หนังสงคราม ที่มีฉากหลังในสมัยฮิตเลอร์เรืองอำนาจฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวเรื่องนี้ อาจไม่เหมาะกับคนดูที่เน้นเรื่องราวศึกษาประวัติศาสตร์ตามเหตุการณ์จริง เพราะมันค่อนข้าง “ยำเละ” บิดเบือนจากความจริงไปค่อนข้างมาก …ซึ่งหากมองดูดีๆ หนังของเควนติน ทารันติโน่ คงไม่ต้องอิงกับความจริงอะไรมากเพราะแก่นสารของหนังจริงๆ คงจะเป็นความสนุกสุดโต่งกับเนื้อเรื่องที่ไปไกลยิ่งกว่าของจริง ความบ้าบอ แสบสันต์ของตัวละครที่ได้ใจคนดูไปเต็มๆ และความรุนแรงชนิดลาบเลือดท่วมจอ จนเราเองสามารถหัวเราะและเพลิดเพลินไปกับหนังได้โดยอัตโนมัติ

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงที่นาซีกำลังเถลิงอำนาจเข่นฆ่าชาวยิว ภายใต้การนำทัพของ เผด็จการอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จนทำให้มีกลุ่มช่วลูกครึ่งอเมริกัน ยิวบางส่วนคับแค้นใจ เลยตั้งกลุ่มกันขึ้นเพื่อร่วมกันทำภารกิจเดียวคือ เชือดทหารเยอรมันแทบทุกรายที่พบเจอ พร้อมทั้งถลกหนังหัวเอาไว้เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่ม จนได้รับฉายาจากทางเยอรมันว่าเป็นแก๊ง Inglourious Basterds ซึ่งเมื่อชื่อเสียงเริ่มกระฉ่อน แน่นอนว่าทางเยอรมันก็คงไม่ปล่อยเอาไว้ แต่ว่าเรื่องราวในหนังจะจบลงแบบในประวัติศาสตร์จริงๆ หรือไม่ ต้องไปชมกัน

 

 

ชื่อหนัง Inglourious Basterds

ยุทธการเดือดล่านาซี

หมวดหมู่ : ดราม่า สงคราม

สัญชาติ :American

กำกับโดย :Quentin Tarantino

ความยาว : 2 ชั่วโมง 33 นาที

นักแสดงนำ : Brad Pitt, Diane Kruger, Eli Roth

รับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

ความน่าจดจำของหนังคือการหยิบเรื่องราวประวัติศาสตร์มาดัดแปลงชนิดหลุดกรอบความเป็นจริง และสนองความบ้าดีเดือดชนิดไม่แคร์สายตาโลก แต่เพราะความไหลลื่นของบทภาพยนตร์และวิธีจัดวางองค์ประกอบที่ดี เรียบเรียงเหตุการณ์ต่อเนื่อง ความตลกร้าย เสียดสีจิกกัดบุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ก็ทำให้ตัวหนังน่ายกย่อง ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการแสดงของ คริสตอฟ วอลต์ซ ที่เข้าถึงบทและทำให้ตัวละครโดดเด่นทุกครั้งที่ปรากฎเข้าฉากพร้อมทั้งสร้างความกดดันในท่าทางนุ่มนวล เรียบร้อย ยิ้มแย้ม แต่แฝงไปด้วยอันตรายซึ่งทุกกิริยาของตัวละครนี้มีความหมายซ่อนเร้น ส่วนงานฉากของหนังมีให้จดจำให้พูดถึงหลายฉาก โดยเฉพาะ ฉาก 3 นิ้ว สั่งเหล้าที่นำพามาสู่ฉากยิงสุดเดือดแบบไม่ทันตั้งตัว

สำหรับคนที่เป็นคอหนังสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วยังมีความคับคั่งใจกับบรรดานาซีในสมัยนั้น จนอยากระบายความรู้สึกนั้นออกมา หรืออยากให้มีหนังที่แก้แค้นคนพวกนี้ได้ แม้ว่ามันจะสวนทางกับประวัติศาสตร์ก็ตาม โอกาสของคุณก็มาถึงแล้วด้วยการรับชมหนังเรื่องนี้ เพราะคุณจะได้พบกับหนังสงครามจากประวัติศาสตร์ กับเหตุการณ์ไม่จริงจนคาดเดาอะไรไม่ได้ ซึ่งใครที่ชอบงานแอคชั่นสายเดือดล้างแค้นเลือดสาดแบบ Dhango Unchained แล้ว นี่คือตัวเลือกที่ดีอีกเรื่องที่ควรรับชม

 

รีวิว Inglourious Basterds-2

 

รีวิว Inglourious Basterds เนื้อหาส่อถึงความล่อแหลม

หนังในแบบของ Quentin Tarantino รู้อยู่แล้วว่าต้องแนว ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังแนวเหมือนเดิม เรื่องนี้พูดถึงเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่มันไม่ใช่ในแบบใดๆที่เราเคยรู้จักแน่ๆ ถ้าเป็นชื่อของ Quentin Tarantino (เฮอๆ) การเล่าเรื่องในช่วง 15 นาทีแรกที่เป็นการเกริ่นเรื่องของเด็กสาวชาวฝรั่งเศสที่ครอบครัวถูกฆ่าโดยนาซี เป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้คนดูรู้สึกอึดอัดกดดันพอสมควร ทั้งภาพ อารมณ์ แสง สถานที่ ที่ชวนให้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว

ถัดมาก็เป็นเรื่องราวของกลุ่มทหารดังที่เห็นในตัวอย่างว่าจะไปหลังแนวฆ่าสึก แล้วเชือด ๆ ๆ ก็ตามนั้นเลยคือ เล่าเรื่องง่ายๆ เร็วๆ เข้าใจง่ายดี ถึงตอนนี้คุณจะได้เห็นแล้วว่าการเชือดที่พูดนี้มันเป็นยังไง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงขึ้นหัวหนังว่าต่ำกว่า 18 ปีไม่ควรดู (มันโหดจริงๆแฮะ) กลุ่ม Basterds นี้จะดักโจมตีทหารนาซีในแนวหลัง แล้วจับคนที่รอดมาข่มขู่ให้บอกว่าทหารนาซีหน่วยอื่นอยู่ตรงไหน จะได้ตามไปเก็บถูก เชลยมี 2 ทางเลือก ไม่บอกก็ตาย (ตายโหดด้วยสิ) คนที่ไม่บอกก็ฆ่ากันให้เห็นๆเลยว่าน่ากลัวยังไง คนที่เหลือจะได้กลัวแล้วยอมบอก แล้วก็จะปล่อยไปแต่ก่อนไปก็ยังอุตส่าห์ฝากของที่ระลึกกลับไปให้ด้วย เพราะอย่างนี้ทำให้ชื่อของกลุ่มนี้โด่งดังในกองทัพนาซีจนหวาดกลัวไปทั่ว

 

 

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้แหละที่ทำให้กลายเป็นทีเด็ดของหนัง ที่ในเมื่อไม่มีประวัติศาสตร์ยึดโยง เลยทำให้แม้ว่าจะมีตัวละครจริงๆ ในอดีตที่คนดูรู้จักอยู่บ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความตัวละครเหล่านั้นจะถูกเล่าออกมาได้ตามจริง มันเลยทำให้แม้แต่คนดูที่เป็นแฟนพันธุ์แท้สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็คงเดาไม่ถูกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในฉากต่อๆ ไป หรือแม้กระทั่งในบทสรุปของหนังเองก็ตาม แล้วจึงเลือกที่จะไปสนุกกับความเซอร์ไพร์ซ ประกอบกับความ โหด มันส์ ฮา ของหนังอย่างสะใจ แทนที่จะมานั่งพะวงว่ามันต่างกับประวัติศาสตร์อย่างไรบ้าง เพราะมันพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ไปเลยจริงๆ และเชื่อว่าน่าจะเป็นสิ่งที่คนดูคงอยากเห็นมันเกิดขึ้นจริงมากๆ อยู่แล้ว

สุดท้ายท่าทีของ Inglourious Basterds เมื่อมองในภาพรวมหนังมีความอ่อนโยนและเคารพต่อความสูญเสียแฝงอยู่ในความโหดร้ายหรือสิ่งที่เควนตินอยากทำและอยากเล่าโดยที่ไม่ได้แคร์คนดูว่าจะต้องเล่าอย่างไรให้คนชอบ แต่จะทำหนังอย่างไรให้ตัวเองชอบที่สุดทำให้ตัวหนังของเควนตินขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่หนังทั่วไปดูง่าย และสิ่งที่เราเห็นจากโลเคชั่นโรงหนังที่เป็นจุดจบของฮิตเลอร์ เป็นการแสดงออกว่าหนังคือเครื่องมือของคนตัวเล็ก ๆ ในการสื่อสารข้อความที่ต้องการบอกสังคมหรือสะท้อนให้สังคมได้รับรู้ข้อความที่ต้องการสื่อสาร เหมือนที่ตัวละครหญิงสาวชาวยิวได้ส่งข้อความไปถึงนาซีผู้กำจัดครอบครัวของเธอ ท้ายสุด Inglourious Basterds จึงเป็นหนังที่ใช้ศิลปะโลกภาพยนตร์นำเสนอสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือไม่เคยเกิดขึ้นในทางประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นในโลกสมมติอย่างเอาแต่ใจ…

ทางกองทัพพันธมิตรเองก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่ยังไม่รู้ว่าเปลี่ยนสถานที่มาเป็นโรงหนังแห่งใหม่ (ของแม่สาวชำระแค้น) ก็เลยคิดแผน “ระเบิดโรงหนัง” โดยจะส่งคอมมานโดอังกฤษเข้าไป 1 นายเพื่อไปสมทบกับกลุ่ม Basterds แล้วไปนัดพบกับสายลับสาวชาวเยอรมันเพื่อประชุมแผนและพาเข้างาน แต่แล้วทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามแผน มาถึงช่วงหลังครึ่งหลังนี้ เรื่องจะเล่าช้าลงนิดนึง มีความกดดันสูงขึ้น และจบลงแบบที่คุณไม่คิดแน่นอน

 

รีวิว Inglourious Basterds-1

 

สรุปภาพรวมของหนังเรื่องนี้

หนังยาวประมาณ 150 นาทีเศษๆ ครับ อาจจะนานมากสำหรับใครบางคน ยิ่งถ้าหนังทำออกมาไม่น่าติดตามแล้ว แต่ยุทธการเดือดเชือดนาซี มีความน่าติดตามทุกตอนจริงๆ มีเนือยๆ บ้างบางฉาก แต่ถ้าใครชอบหนังแนวล้างแค้น เน้นเชือดเฉือน กวนอารมณ์เรื่องนี้คงตอบโจทย์มาก หนังเต็มไปด้วยบทสนาพูดพล่ามตามแบบฉบับเควนติน ซึ่งก็ยียวน กวนอารมณ์และดูยอกย้อนคนฟังไม่น้อยครับ อารมณ์ขันร้ายๆ ก็มีเต็มทั้งเรื่อง หลายฉากคนดูจะขำกับความกวนของตัวละครในเรื่อง และความรุนแรงชนิดไม่ยั้งมือ ฉากรุนแรงประเภทฉีกเนื้อ เชือดหัว ฟาดหัวและอีกมากมาย ล้วนปรากฏให้เห็นบนจอตลอด …ซึ่งถ้าใครรับความรุนแรงประเภทนี้ได้ คุณจะสนุกกับหนังอย่างมากๆ เลยครับ

ในพาร์ทของการแสดงคนที่น่าปรบมือให้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นตัวละครนาซีสุดยียวนอย่าง Christoph Waltz รีวิวหนังสงคราม ที่เล่นดีเสียจนต้องได้รางวัลออสการ์สาขาดาราสบทบชายยอดเยี่ยมมาครอง จนกลายเป็นบทบาทที่แจ้งเกิดให้กับเขาในวงการ Hollywood ได้อย่างสวยงามและเป็นที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในส่วนอื่นๆ ของหนังก็เรียกได้ว่าดีงามตามสไตล์เควนตินเลยก็ว่าได้ และการทำหนังเรื่องนี้ ก็เสมือนเป็นการตอกย้ำ ถึงความหลงใหลในโลกภาพยนตร์ของเขา ที่เขาเองเป็นเสมือนเจ้าของโลกใบนี้ที่จะสร้างสรรค์อะไรออกมาก็ได้ แม้แต่การแก้ประวัติศาสตร์ เพื่อความสะใจ จนทุกสิ่งก็สามารถเกิดขึ้นได้ในสิ่งที่เรียกว่า “ภาพยนตร์” นั่นเอง

 

 

ครั้งแรกที่ได้ดูตัวอย่างเรื่องนี้รู้สึกว่าน่าดู หนังมันต้องมีอะไรแน่ๆ เพราะได้ Brad Pitt มาแสดง แถม Quentin Tarantino เป็นผู้กำกับ มันคงต้องมีอะไรบ้างแหละน่า เพราะจากตัวอย่างที่ตัดมาแบบเอาสะใจ แบบไม่เล่าเรื่องเยอะ พอให้รู้ว่าจะเป็น Action ปนตลก (ตลกร้ายมาก) เรื่องนี้บอกได้เลยว่าอย่าตัดสินหนังจากตัวอย่าง เพราะตัวอย่างที่เห็นมันแค่เศษเสี้ยวจริงๆ

ฝั่งดาราในเรื่องก็เยอะนะครับ แต่ละคนก็แสบมากๆ หลักๆคงจะเป็นแบรด พิตต์จากลุคหล่อๆ มาในเรื่องนี้เท่ห์และโหดมาก แต่คนที่แจ้งเกิดจากหนังเรื่องนี้เลยคงจะเป็นคริสตอฟ วอลซ์ กับบทผู้พันขาโหด ที่การแสดงเข้าขั้นน่าจดจำมากๆ

หนังเรื่องนี้เป็นหนังสงครามที่ดีมากๆ เป็นหนังสงครามที่มันส์ในอารมณ์มาก สะใจกับความรุนแรงในหนัง ตัวละครแสบสันต์และเนื้อเรื่องที่ผู้กำกับเอง ยำประวัติศาสตร์สงครามฮิตเลอร์เสียจนสนุกมือ และผู้ชมเองก็ดูจะสนุกไปกับเรื่องราวชวนหัวกับหนังเรื่องนี้ด้วย แนะนำลองหามาดูครับ สามารถติดตามรีวิวหนัง สปอยหนัง ทุกเรื่องมันส์ๆ ได้ที่ รีวิวหนังบู้ออนไลน์