รีวิว The Railway Man

หนังเรื่อง The Railway Man เป็นหนังที่ได้รับการสร้างโดยฝีมือผู้กำกับ สุดฮิต และเรื่องราว สร้างจากเรื่องราวชีวิตจริงของทหารผ่านศึกชาวอังกฤษนามว่า Eric Lomax ที่เคยถูกกองทัพญี่ปุ่นต้อนมาจากสิงคโปร์เพื่อมาใช้แรงงานก่อสร้างทางรถไฟที่ประเทศไทย (ที่จังหวัดไหนคงเดาได้ไม่ยาก) แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่ได้ถูกใช้แรงงานหนักเยี่ยงทาสอย่างคนอื่น ๆ ดูหนังออนไลน์ ด้วยความสามารถทางวิศวกรรมศาสตร์ที่เขา

แต่กระนั้น การแอบลักลอบประกอบวิทยุดักฟังก็ทำให้เขาต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ซึ่งชีวิตเขาขึ้นอยู่กับทหารล่ามชาวญี่ปุ่นนามว่า Takashi Nagase แม้สุดท้ายแล้วเขาจะมีชีวิตรอดมาได้จนแก่ แต่ความทรงจำอันเลวร้ายก็ยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่

เรื่องราวของ Eric ไม่เพียงแต่ทำให้เราเห็นฉากหลังของการใช้แรงงานเชลยศึกอย่างทิ้งขว้าง แต่ยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าร่องรอยของสงครามนั้นเป็นแผลลึกที่ไม่มีวันตกสะเก็ดได้ และยังคงทิ้งความเจ็บปวดชอกช้ำกัดกินความรู้สึกของเจ้าของร่างกายไปจนกว่าจะตาย

ตอนแรก ครั้งแรกเห็น Poster ของ The Railway Man ก็แอบเข้าใจเอาเองว่าเป็นหนังทริลเลอร์ว่าด้วยฆาตกรโรคจิตที่หมกมุ่นกับรถไฟ แต่เมื่อได้เห็นการโปรโมทและ Trailer  ถึงได้เข้าใจ The Railway Man เป็นหนังที่ว่าด้วย สภาพจิตใจที่บุบสลายของชายคนหนึ่งที่เกิดมาจากผลพวงของสงครามที่หวังพึงการเยียวยาจากความรัก ซึ่งเกร็ดที่น่าสนใจอีก 2 อย่างของ The Railway Man ก็คือหนังเรื่องนี้สร้างมาจากตัวละครที่มีอยู่จริงๆ และได้มาถ่ายทำที่สถานที่จริงอย่างสะพานข้ามแม่น้ำแควที่ประเทศไทยซะด้วย

 

รีวิว The Railway Man-4

 

The Railway Man ชื่อไทยคือ แค้นสะพานข้ามแม่น้ำแคว พูดถึงแม่น้ำแควเชื่อว่าคนไทยหลาย ๆ คนอย่างพวกเราต้องรู้จักกันแน่นอนค่ะ เพราะเป็นเรื่องราวจริง และได้มีการมาถ่ายทำที่ประเทศไทยด้วย ที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้งเอง The Railway Man เปิดเรื่องมาเล่าถึงรักแรกพบบนรถไฟของอีริคและแพตตี้ คู่พระ-นางได้หวานเสียจนคิดว่าเข้าผิดโรง ก่อนที่จะหักดิบเข้าสู่ความโหมดสงครามอันโหดร้ายหลังจากทหารฝ่ายพันธมิตรที่สิงคโปร์นั้นพ่ายแพ้ต่อทหารญี่ปุ่นเป็นเหตุให้อีริคถูกจับไปเป็นเชลยเพื่อใช้แรงงาน ซึ่งหนังก็จะตัดสลับอดีตและปัจจุบันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เพื่อให้เห็นต้นเหตุของสภาพจิตใจที่บอบช้ำว่ามีที่มาอย่างไร และกลับไปที่ปัจจุบันว่าเหตุการณ์ในอดีตนั้นส่งผลกระทบอย่างไรในดำเนินชีวิตของอีริคบ้าง

ทำได้ค่อนข้างดีในแง่เจาะลึกสภาพจิตใจตัวละคร เพราะดูแล้วมีความละเมียด น่าสนใจ อีกทั้งพลังของนักแสดงหลักทั้ง 3 คนที่ช่วยให้หนังดูมีความสมจริงขึ้นได้เป็นอย่างดี ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย แต่น่าเสียดายที่หนังกลับทำได้แย่ในด้านของความสัมพันธ์ตัวละคร ที่ดูแล้วเหมือนเร่งรีบตัดฉากด้านความสัมพันธ์เพื่อไปลงลึกแต่จิตใจของอีริคเสียมากกว่า แต่คิดอีกทีนั่นก็อาจจะเป็นจุดประสงค์และหัวใจสำคัญของหนังด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

หนังเรื่องนี้ อาจไม่ใช่หนังที่มีสไตล์ที่หวือหวา ที่จริงออกไปทางละเมียดค่อยๆ ซึมซับตัวละครด้วยซ้ำ แต่หนังก็ไม่มีฉากน่าเบื่อหรือชวนง่วงแต่อย่างใด ส่วนนึงคงต้องชมจังหวะการเล่าเรื่องและดนตรีขับเร้า (ออกแนวจิตๆ หน่อยเสียด้วยซ้ำ) ให้หนังเกิดความน่าสนใจและชวนติดตามต่อไปตลอดว่าพระเอกจะทำอะไรต่อไปกันแน่ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2021 เต็มเรื่อง พากย์ไทย ดังนั้นแม้ว่าหนังจากดูแล้วออกไปทางหนังรางวัลจ๋าแต่ไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง เพราะดูแล้วค่อนข้างเข้าใจง่าย ทุกอย่างที่อยู่ในหนังนั้นก็คือความเป็นมนุษย์ที่รับผลกระทบจากสงครามไม่ว่าจะเป็นผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำก็ล้วนบอบช้ำไม่แพ้กันเลย ถือเป็นอีกหนึ่งหนังดีๆ ที่น่าสนใจหากเบื่อหนังใหญ่ก็ลองไปดูกันได้ครับ

 

รีวิว The Railway Man-1

 

รีวิว The Railway Man ประวัติและความเป็นมาของหนังเรื่องนี้

สร้างจากงานเขียนบันทึกความทรงจำของ อีริค โลแมกซ์ ซึ่งขายดีติดอันดับ 1 เบสต์เซลเลอร์ และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับสงครามที่ดีที่สุดในโลก อีริคเสียชีวิตในปี 2012 และได้มีโอกาสในการไปเยี่ยมเยียนกองถ่ายของภาพยนตร์เรื่องนี้ ด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำในสก็อตแลนด์ ควีนส์แลนด์ และ ประเทศไทย ฉากสำคัญของภาพยนตร์ถูกถ่ายในสถานที่จริงอย่างทางรถไฟสายมรณะ เพื่อถ่ายทอดเหตุการณ์เมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเกี่ยวของกับชีวิตของผู้คนนับหมื่นชีวิต  ที่ต้องเสียชีวิตลงเพื่อสร้างทางรถไฟสายนี้

“สงครามจบ แต่เส้นทางในหัวใจพึ่ง เริ่มต้น” Based on true story เรื่องจริงไม่ใช่ “คู่กรรม” หนังเล่าเรื่องราวชายทหารคนหนึ่งที่ถูกจับเป็นเฉลยของญี่ปุ่น ในการสร้าง “สะพาน” ข้ามแม่น้ำแควหรือรถไฟสายมรณะ เป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความโหดเหี้ยมและทารุณของทหาร “ญี่ปุ่น” ที่คนไทยคุ้นชินกับเรื่องเล่าของหน้าประวัติศาสตร์นี้เป็นอย่างดี หนังแสดงโดย Colin Firth, Nicole Kidman, Jeremy Irvine, Hiroyuki Sanada

ผมชอบวิธีการนำเสนอตัวเรื่องนะครับ ดูมี “แง่มุม” ถึงแม้ว่า “เหตุการณ์” บางอย่างมันอาจจะดูง่ายเกินไปหน่อย แต่เหตุการณ์เหล่านั้นก็ถูก “เชื่อม” ต่อกลายเป็นพล็อตเรื่องที่สวยงามพอตัวอยู่เหมือนกัน การดำเนินเรื่องไม่ซับซ้อนอะไรมากมาย มีการตัดฉากเหตุการณ์ “ปัจจุบัน” กับ “อดีต” ณ สถานที่เดียวกัน ดูแล้วเข้าที่เข้าทางดีครับ เหมือนมาได้จังหวะแล้วถูกจุด

 

 

การแสดงของ Colin Firth เจ้าของนักแสดงนำชาย Oscar จากเรื่อง The King’s Speech มารับบท นายทหารหน่วยสื่อสาร ชื่อ เอริก โลแม็กซ์ เขาต้องทนทุกข์กับสภาวะจิตที่ไม่ปกติ หลังจากกลับมาจากสงคราม เขายังคงสั่นสะเทือนกับการถูกทารุณจากทหารญี่ปุ่น รอยแผลในจิตใจยากที่จะเยียวยา ความแค้น ความวิตกกังวล ทุกอย่างถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ณ ปัจจุบัน โลแม็กซ์ ได้พบกับ แพทตี้ (Nicole Kidman) และได้แต่งงานกัน ด้วยพฤติกรรมแปลกๆของ โลแม็กซ์ ทำให้แพทตี้พยายามสืบค้นเรื่องราว จนทำให้เหตุการณ์ทั้งหมดของเรื่องได้ “เริ่มต้นใหม่” อีกครั้ง

ว่าด้วย “ฉาก” เป็นการสร้างฉากที่ดูสมจริงหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่ผมแน่ใจคือมันดูสวยมาก ถึงแม้ว่า Location รีวิวหนังบู้ ส่วนใหญ่จะเป็นประเทศไทย แต่มันดูสวยมากครับ ผมชอบโทนสีของหนัง ดูเล่าเรื่องราวได้ดีและมีบางช่วงเวลาที่ทำให้เรา รู้สึกทุกข์ใจไปกับตัวละคร เสียงประกอบของหนังก็พอทำให้ตัวหนังตื่นเต้นได้พอสมควร แต่ด้วยการ “เดา” เรื่องราวได้ทั้งหมดมันเลยไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไร หนังที่ “เดา” เรื่องได้ ถ้าไม่มีแง่คิดมุมมองก็คงเป็นหนังที่ “แย่” ไปเลย แต่สำหรับ The Railway Man มันมีมุมมองของการให้ “อภัย” อยู่ครับ

เมื่อโลแม็กซ์ รู้ว่านายทหาร ญี่ปุ่น นากาเซะ(Hiroyuki Sanada) ที่ทำการทารุณยังมีชีวิตอยู่และยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย ณ สถานที่เริ่มต้น จะเป็น สถานที่สิ้นสุด เพราะด้วยความแค้น และแผลในจิตใจของโลแม็กซ์ จะสิ้นสุด ณ จุดเริ่มต้น โลแม็ซ์มาตามล่า นากาเซะ มันคือจุดสิ้นสุดที่เป็นจุดเปลี่ยนในจิตใจของ โลแม็กซ์ จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่จะทำให้เขาหายจาก “สภาวะ” แบบนี้สักที เขาจะต้องเลือกวิถีทางชีวิตของเขาเอง เขาต้องตัดสินใจ ก้าวข้ามความแค้นแปรเปลี่ยนเป็นการให้ “อภัย” เป็นจุดที่น่าชื่นชม แม้ว่าหนังจะเล่นประเด็นนี้ตอนท้ายไว้ไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่มันก็พอจับต้องได้ในระดับหนึ่งครับ

รีวิว The Railway Man-2

 

ประเด็นที่สำคัญอย่างมากของหนังเรื่องนี้

สุดท้าย The Railway Man คือหนังสงคราม ไม่ใช้แค่ สงครามในสนามรบ แต่เป็นสงครามที่สร้างรอยแผลใน “จิตใจ” สิ่งสุดท้ายที่โลแมกซ์ได้เลือกกระทำ อาจจะถูกหรือผิด ไม่มีใครรู้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปแน่นอนคือ “จิตใจ” ของโลแมกซ์ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล การให้ “อภัย” เป็นสิ่งเดียวที่ทรงคุณค่ากว่าอะไรทั้งหมด ถึงเวลาแล้วหรือยังครับ ที่เราทุกคนจะให้ “อภัย” ซึ่งกันและกัน เพราะอย่างน้อยๆเราก็ได้ชื่อว่าเป็น “มนุษย์” เหมือนกัน  มีความสุขกับการดูหนังครับ

หนังเรื่องนี้เริ่มต้นในคลับของทหารผ่านศึก เมื่อ “อีริค โลแมกซ์” ผู้เงียบขรึม เล่าให้เพื่อนๆฟังว่า เขาพบกับ “แพตตี้” ผู้หญิงคนหนึ่งที่ออกเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ และแม้การแลกเปลี่ยนมุมมองในบทสนทนาระหว่างการเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็ทำให้หัวใจที่เคยแห้งแล้งของหนุ่มใหญ่คนนี้ ชุ่มชื่นขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด

อีริคตัดสินใจไปดักพบแพตตี้อีกครั้งที่สถานีรถไฟปลายทางแห่งหนึ่ง รีวิวหนังสงคราม ซึ่งเขารู้ว่าเธอต้องแวะมา จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้เกิดเป็นความรัก ในที่สุดทั้งคู่จึงตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน

 

 

แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน แพตตี้ก็พบว่า สามีของเธอมักฝันร้ายบ่อยๆ และละเมอส่งเสียงออกมาด้วยความเจ็บปวด แถมยังมีอาการเหม่อลอย มีอารมณ์ฉุนเฉียว ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างตามหลอกหลอนภายในจิตใจ

สภาวะอารมณ์อันไม่คงที่ และเต็มไปด้วยความเครียดของสามี ทำให้แพตตี้ไม่สบายใจนัก เธอพยายามจะค้นหาคำตอบ เรื่องราวในอดีตที่ทำร้ายสามี แต่อีริคก็ไม่ยอมอธิบายอะไร

สุดท้าย แพตตี้ก็เดินทางไปที่คลับทหารผ่านศึก เพื่อพบกับ “ฟินลีย์” เพื่อนสนิทรายหนึ่งของสามี ซึ่งเธอคิดว่า เขาจะให้คำตอบที่เธออยากรู้ เพื่อช่วยเหลือสามี แม้ตอนแรกฟินลีย์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม แต่แพตตี้ไม่ยอมลดละความพยายาม ในที่สุดเขาจึงยอมเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต