รีวิว Searching
หนังเรื่องนี้ เกี่ยวกับ เดวิดคิมยื่นเรื่องร้องเรียนตำรวจเพื่อตามหา มาร์กอต ลูกสาวที่หายตัวไปอย่างปริศนา อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว เขาได้ทำการสืบหาร่องรอยการหายตัวไปด้วยตัวเองโดยอาศัยเพียงคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต โดยได้ร่องรอยสำคัญจากแล็ปท็อปของลูกสาว เขาจะสามารถค้นหาเรื่องราวนี้ได้หรือเพื่อนๆสามารถติดตามชมได้ที่ เว็บดูหนัง
หลายๆคน ความจริงพอเห็นตัวอย่างหนัง ก็คิดเลยว่า อืมมม เรื่องนี้เราต้องไม่พลาด ด้วยความเป็นคนชอบดู series สืบสวนมากกกก (แต่ไม่ยักชอบดูหนังสืบสวนแฮะ แปลกเหมือนกัน) ก็ค่อนข้างคาดหวังกับหนังในระดับนึงเลย เพราะเคยเห็นผ่านๆตาเนี่ยแหละค่ะ ว่าเมืองนอกเขาบอกเป็นหนังที่ตื่นเต้นทุกนาที พลาดไม่ได้แล้วแบบนี้
ในปัจจุบันนี้ อินเตอร์เน็ตและโลกโซเชียล ต่างก็แทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในยุคใหม่ไปแล้ว การเข้ามามีบทบาทในทุกจังหวะชีวิตของคน ๆ หนึ่งมากเลยทีเดียว นั่นคือสิ่งที่สะท้อนออกมาในภาพยนตร์เรื่อง Searching เสิร์ชหา สูญหาย ภาพยนตร์แนวไซเบอร์ทริลเลอร์ ภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวใหม่ ใครที่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง Unfriended เมื่อปี 2014 มาก่อนแล้วรับรองว่าจะต้องถูกใจ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แนวสยองขวัญ ไม่มีผีสางนางไม้หรือสิ่งเหนือธรรมชาติ มันคือความระทึกขวัญ สืบสวนสอบสวนชั้นดีเรื่องหนึ่งในปี 2018 นี้
เมื่อนานมาแล้ว ครั้งหนึ่ง โลกเซลลูลอยด์ได้รู้จักกับหนังที่มีแต่ภาพบนจอคอมพ์อย่าง ‘Unfriended’ ที่ได้รับกระแสฮือฮากันเป็นอย่างมาก มา พ.ศ. นี้ โลกก็ได้รู้จัักกับหนังสไตล์นี้อีกครั้ง กับ ‘Searching’ หรือชื่อไทย ‘เสิร์ชหา…สูญหาย!?’ เมื่อครอบครัวเล็กๆ ของพ่อกับลูก ที่พ่อต้องตามหาลูกที่หายด้วยวิถีออนไลน์
รื่องราวเริ่มต้นในครอบครัว คิม หลังจากการจากไปของ พาเมล่า คิม ผู้เป็นแม่ ครอบครัวนี้จึงเหลือเพียงแค่พ่อ เดวิด คิม และ มาร์โกต์ คิม ลูกสาว ทั้งคู่ต่างใช้ชีวิตโดยแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างยังคงปกติดี เดวิดยังคงใส่ใจและเป็นห่วงลูกสาวอยู่อย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่มาร์โกต์นั้นกลับซ่อนความลับอะไรบางอย่างเอาไว้ จนกระทั่งในวันหนึ่งเธอหายตัวไปจนไม่สามารถติดต่อไป เดวิดต้องใช้ทุกวิถีทางในการค้นหาตัวลูกสาว ผ่านโซเชียลมีเดียทุกชนิดที่เธอใช้ ท้ายที่สุดแล้วเขาถึงได้รู้ว่าลูกสาวของเขาไม่มีเพื่อนที่โรงเรียน และตัวเขาเองกลับไม่ได้รู้จักลูกสาวของตัวเองแม้แต่นิดเดียว
หากใครกังวลว่า Searching จะเป็นหนังไซเบอร์ทริลเลอร์ที่ดูยากขอบอกเลยว่า ตัวหนังไม่ได้เอาเทคโนโลยีมาตีหัวเข้าบ้าน เพราะเอาเข้าจริงตัวหนังเองกลับเลือกนำเสนอเรื่องราวสามัญทว่าสัมผัสใจดีเหลือเกินทั้งความรัก ความห่วงใย และช่องว่างระหว่างวัยในครอบครัวท่ามกลางวิกฤติการหายตัวไปของคนสำคัญในครอบครัว และแน่นอนว่านอกจากหนังจะเล่าได้สนุกมากๆแล้ว ใครมีลูกสาวยิ่งต้องแนะนำให้มาดูเพราะเหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดกับใครก็ได้
เอาจริงๆแล้ว ตัวหนังเอง ถามว่าตื่นเต้นมั๊ย มันก็ตื่นเต้นค่ะ โดยเฉพาะตอนแรก ลุ้นตามคุณพ่อเลยส่วนหลังๆมา รู้สึกตื่นเต้นน้อยลง เหมือนกราฟความตื่นเต้นมันขึ้นสูงในช่วงแรก แล้วดร็อปลงเล็กน้อย แล้วก็สูงขึ้นเท่าช่วงแรก แล้วดร็อปลงอีก เป็นอย่างงี้ตลอดเรื่อง เสมือน ส่วนพล็อตเรื่องด้านประเด็นสืบสวน เรา…..ผิดหวังเลยแหละ ปมสืบสวนนี่ ประหนึ่งว่าดู series criminal minds/ CSI อะไรทำนองนั้น นึกปมว่าจะซับซ้อนกว่านี้
เป็นการเล่าเรื่องผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์และทีวีทั้งหมด เหมือนเรานั่งดูข่าวหรือนั่งดูแชทผ่านจอคอม เราชอบมาก แต่แม่เรากลับไม่อินเอาซะเลย อาจจะเป็นคนละ gen เลยไม่เข้าใจการกระทำในเรื่องหลายๆอย่าง + ประเด็นครอบครัว + ประเด็นการใช้โซเชียลมีเดีย + สะท้อนสังคมวัยรุ่นปัจจุบัน(ด้านความสัมพันธ์) ซึ่งประเด็นพวกนี้ ไม่ได้ถือว่าคมกริบมาก แต่ก็จขกท.ว่า หนังนำเสนอได้อย่างกลมกล่อม จขกท.ชอบนะ และอินในประเด็นพวกนี้ (อินกว่าปมสืบสวนซะอีก)
สรุปคือ เป็นหนังที่ดูแล้วก็ตื่นเต้นดี ไม่รู้สึกเสียดายเงิน มีวิธีนำเสนอแปลกดี มีความแปลกใหม่ และมิติที่น่าดู แนะนำให้ไปดูกันเถอะครับ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
รีวิว Searching เนือเรื่องทำออกมาได้แปลกใหม่
คุณนักสืบผู้หญิงมากกว่า ถ้าลองมานั่งนึก ๆ ดู หลาย ๆ เหตุการณ์ มันเข้าถึงจิตใจมนุษย์ได้อย่างน่ากลัว เพิ่งได้ดูเรื่องนี้ค่ะ ดูไปรู้สึกสนุกกับการเล่าเรื่องแบบนี้นะ ก็ลุ้นอยู่ว่าจะมีฉากที่ไม่สามารถเล่าผ่านจอได้มั๊ยนะ แต่ก็ 5555 ทำได้จริงๆ พี่แกเล่าผ่านจอทั้งหมด จบก็หักมุมจากตอนต้นเรื่อง แต่ถ้าตามๆมาก็เดาคนร้ายได้ไม่ยาก
หนังเรื่องนี้ งานนี้เป็นทั้งหนังลึกลับ และเป็นทั้งหนังทริลเลอร์ น่าสนว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ผลงานของผู้กำกับ Aneesh Chaganty ผู้เคยทำแต่หนังสั้น แต่ครั้งนี้กระโดดมาจับงานหนังยาวเป็นเรื่องแรก โปรดิวซ์โดย Timur Bekmambetov คนที่กำกับ ‘Wanted’ และคนที่โปรดิวซ์ ‘Unfriended’ นั่นแหละ
หนังเกี่ยวกับอะไร อธิบายง่ายๆ มันคือหนังของครอบครัวๆ หนึ่ง ที่เล่าผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ในวันเริ่มแรกของครอบครัว จนวันที่สมาชิกหายไปหนึ่ง และเหลือเพียงพ่อกับลูก ที่ใช้ชีวิตผูกอยู่ด้วยกันในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกัน แต่วันหนึ่ง ผู้เป็นพ่อกลับพบว่า ลูกสาวของตนไม่กลับบ้าน จึงเริ่มเอะใจและสืบหาลูกสาวตัวเองผ่านหน้าจอ
ชีวิตคนเราทุกวันนี้ เกาะเกี่ยวอยู่กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและโซเชียลมีเดียค่อนข้างสูงมาก รีวิวหนังสงคราม อะไรหลายๆ อย่างถูกเก็บไว้อยู่ในนั้น การที่ลูกสาวหายไป คนเป็นคุณพ่อก็ต้องร้อนรน และสิ่งที่คิดได้ก็คือใช้สิ่งที่ถูกเก็บอยู่ในบริการต่างๆ ในโลกอินเทอร์เน็ตมาช่วยในการค้นหา
มันคือหนังที่สเกลของมันไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก หยิบเรื่องของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งมาเล่า ในเทคโนโลยีที่คนยุคปัจจุบันใช้กันอยู่ ผสานไปกับดนตรีที่ปลุกเร้าได้ดี ชวนลุ้นตัวเกร็งสลับกับความพลิกผันของเรื่องราว ก็ทำให้มันที่ดูไม่น่าจะมีอะไรกลับ “มีอะไร” ขึ้นมาได้ แถมหนังยังมีความจิกกัดสังคมที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีส่วนในชีวิตเราสูง บางทีเราก็โหนตามกระแสดราม่าโดยไร้สติยั้งคิด อะไรที่อยู่บนนั้น มันก็แค่ส่วนเสี้ยวหนึ่งของแต่ละบุคคล ที่เราอาจจะไม่มีวันรู้จริงถ้าเขาไม่ได้เปิดให้เรารู้ และหลายครั้ง ที่คนที่ควรจะพูดคุยแบบเห็นหน้ากันมากที่สุด กลับเลือกจะใช้เพียงโซเชียลมีเดียคุยกัน
จุดที่ผมชอบเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นการใช้ฟังก์ชั่น ‘เล่าเรื่องผ่านจอ’ ที่แม้หนังจะมาหลัง Unfriended หรือ Friend Request แต่ Searching กลับสามารถใช้กลไกของหน้าจอคอมในหลากหลาย OS เพื่อแบ่งยุคสมัยได้อย่างชาญฉลาดดีเหลือเกิน โดยหน้าจอ Window 95 ใช้บอกช่วงปีเกิดของ มาร์โกต์ ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่หนังใช้ฟังก์ชั่นวันที่และบันทึกเมโม่บนหน้าจอเดสก์ทอปของคุณแม่ที่จดบันทึกทุกอย่างของลูกสาวเป็นการบอกเล่าความเป็นมาของตัวละครที่มีความละเอียดและรู้จักลูกสาวตัวเองดี ทั้งเบอร์โทรติดต่อเพื่อนสนิท วีดีโอบันทึกเหตุการณ์สำคัญของมาร์โกต์ ซึ่งหนังใช้จังหวะแช่มช้าแบบความเร็วคอมพิวเตอร์สมัยก่อนมาบอกช่วงเวลาอันสุขสันต์ ที่่ต่อมามันได้กลายเป็นเบาะแสสำคัญของเดวิดในการตามหาลูกสาว
เรื่องย่อที่น่าสนใจของเรื่องนี้
ชื่อภาพยนตร์: Searching / เสิร์ชหา…สูญหาย!?
ผู้กำกับภาพยนตร์: Aneesh Chaganty
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Aneesh Chaganty, Sev Ohanian
นักแสดงนำ: John Cho, Debra Messing, Joseph Lee
ความยาว: 102 นาที ปี: 2018
สามารถรับชมได้ที่ เว็บดูหนังฟรี
แนว/ประเภท: Drama, Mystery, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 23 สิงหาคม 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Bazelevs Entertainment, Bazelevs Production
มันคือหนังที่สเกลของมันไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก หยิบเรื่องของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งมาเล่า ในเทคโนโลยีที่คนยุคปัจจุบันใช้กันอยู่ ผสานไปกับดนตรีที่ปลุกเร้าได้ดี ชวนลุ้นตัวเกร็งสลับกับความพลิกผันของเรื่องราว ก็ทำให้มันที่ดูไม่น่าจะมีอะไรกลับ “มีอะไร” ขึ้นมาได้
แถมหนังยังมีความจิกกัดสังคมที่โซเชียลมีเดียเข้ามามีส่วนในชีวิตเราสูง บางทีเราก็โหนตามกระแสดราม่าโดยไร้สติยั้งคิด อะไรที่อยู่บนนั้น มันก็แค่ส่วนเสี้ยวหนึ่งของแต่ละบุคคล ที่เราอาจจะไม่มีวันรู้จริงถ้าเขาไม่ได้เปิดให้เรารู้ และหลายครั้ง ที่คนที่ควรจะพูดคุยแบบเห็นหน้ากันมากที่สุด กลับเลือกจะใช้เพียงโซเชียลมีเดียคุยกัน นี่คือจุดเด่นที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจ อย่างไม่น่าเชื่อ สามารถติดตาม รีวิวหนังออนไลน์ รีวิวหนังบู้หนังสงคราม หนังอาชญากรรม ทุกเรื่องได้ที่ รีวิวหนังบู้