รีวิวหนัง Guardians of the Galaxy3 การสั่งลาของมิตรภาพ
รีวิวหนัง Guardians of the Galaxy3 หลายคนคงรอคอยการกลับมาของหนังเรื่องนี้อยู่แน่นอน สำหรับหนัง Guardians of the Galaxy 3 full movie ที่พึ่งจะเข้าฉายให้เราได้ชมกัน กับเรื่องราวของกลุ่มผู้พิทักษ์จักรวาล ที่พวกเขามีมิตรภาพที่ดีต่อกัน งานนี้หนัง กาเดี้ยน ออฟเดอะกาแล็คซี 3 นักแสดง ยังคงใช้งานนักแสดงคนเดิมที่เคยใช้มาในภาค1และภาค2 งานนี้จะสนุกแค่ไหนต้องไปติดตามชมกันได้ที่ ดูหนังออนไลน์ รับรองมีหลากหลายอารมณ์แน่

กลับมาสานต่อจาก2ภาคที่แล้ว
หลังจากที่เราเคยติดตามภารกิจของพวกเขามาแล้วในภาค1และภาคของสำหรับกลุ่มผู้พิทักษ์จักรวาล เราจะเห็นความเป็นตัวเองของพวกเขา ที่แม้จะรวมอยู่ในจักรวาลมาร์เวล หรือเป็นส่วนหนึ่งของดิอะเวนเจอร์ส แต่เมื่อถึงเวลามีภาคแยกของตัวเอง ก็มีเรื่องราวที่ไม่คาบเกี่ยวกับจักรวาลหลักสักเท่าไหร่ พวกเขามีภารกิจวุ่นวายเป็นของตัวเองกันอยู่แล้ว จนมาถึงภาคนี้Guardians of the galaxy vol 3 ซูมภาคที่จะเป็นการส่งท้าย
นี่อาจจะเป็นภารกิจสุดท้ายของพวกเขาเหล่าแก๊งการ์เดียนส์ ครั้งนนี้ก็ยังใช้ผู้กำกับคนเดิมที่มีฝีมือดีอย่าง เจมส์ กันน์ เป็นภาคที่หลายคนรีวิวไว้เชิงชื่นชม จนตัวผมก็ตั้งใจไว้ว่าจะขอเข้าไปชมในโรงหนังแล้วกลับมาเขียนถึงกับเขาสักที กับภารกิจครั้งสำคัญที่เป็นการปิดไตรภาค นำพาตัวละครทั้งหลายแหล่ที่เคยสร้างสีสันเอาไว้ สามารถไปชมกันได้ที่ รีวิวหนังบู้

กว่าจะมาให้เราได้ชมกันในวันนี้ มันค่อนข้างใช้เวลานาน แถมยังติดๆขัดๆเพราะตัวผู้กำกับเองนั้น ดันถูกขุดทวีตแนวตลกร้ายต่าง ๆ นานา จน Disney ที่รักษาภาพลักษณ์ด้านบวกยิ่งชีพถึงกับต้องปลดออก แม้หนัง 2 ภาคจะทำรายได้ไปไม่น้อย แต่สุดท้ายด้วยแรงหนุนจากทั้งคนดูและนักแสดง ก็เลยได้โอกาสที่ 2 ได้กลับมาสานฝันกับหนังเรื่องนี้อีกครั้ง แต่แล้วก็ยังต้องผัดผ่อนไปอีก เพราะระหว่างนั้น กันน์ก็ข้ามไปจักรวาล DC กำกับหนัง The Suicide Squad 2021 และทีวีซีรีส์ Peacemaker 2022 จนได้นั่งแท่นผู้บริหารร่วมของ DC Studios ด้วยซะเลย
รีวิวหนัง Guardians of the Galaxy3 เรื่องย่อของแก๊งผู้พิทกษ์จักรวาล
มาในภาคนี้ การ์เดียน 3 พากย์ไทย ทีมของพวกเขาก็ยังคงอยู่กันครบพร้อมหน้าพร้อมตาไม่ว่าจะเป็น สตาร์ลอร์ด , แมนทิส , เนบิวลา และร็อกเก็ต ยังคงรวมตัวกันที่ดาวแคระรูปกระโหลก ชื่อดาวโนว์แวร์ ที่น่าห่วงอยู่หน่อยก็คงเป็น สตาร์ลอร์ด หรือ ปีเตอร์ ควิลล์ ผู้ที่เมามายเพราะความทุกข์ระทมจากการที่คนรักร่างเขียวอย่าง กาโมร่า แต่ไม่มีล่วงรู้ถึงอดีตอันมืดมนของร็อกเก็ต เมื่อแร็คคูนจอมซ่าส์เกิดบาดเจ็บสาหัส เพื่อนๆ จึงต้องหาหนทางรักษา ที่ทำให้ต้องออกผจญภัยอีกครั้ง

ภารกิจกิจใหม่รั้งนี้ พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายตัวใหม่ที่มีชื่อว่า The High Evolutionary ผู้เคยมีอดีตที่ฝังลึกอยู่ภายในจิตใจของร็อกเก็ตนั้น เขาได้หวนกลับมาเจอกับร็อกเก็ตอีกหน พร้อมกับมียอดมนุษย์คนใหม่ ซึ่งมีความสามารถบินได้ปล่อยแสงได้มีร่างกายสีทองเขามีชื่อว่า อดัม วอร์ล็อกที่ปรากฏกายขึ้นคอยจู่โจมเพื่อหวังชิงร่างของร็อกเก็ตไป เหตุการณ์ทั้งหมดกำลังนำเราไปพบเจอกับอดีตอันมืดหม่นของร็อกเก็ตที่เรายังไม่เคยรู้ และนำไปสู่ภารกิจที่เหล่าการ์เดี้ยนส์ต้องร่วมมือกันเป็นครั้งสุดท้าย
ย้อนไปชมวัยเด็กของร๊อกเก็ต
หนังการ์เดียน 3 pantipนั้น จะเริ่มจากการที่พาเราย้อนไปในวัยเด็กของร็อกเก็ต เจ้าแร็คคูนสุดแสบที่เขานั้นไม่ยอมรับตัวเองว่าเขาเป็นแร็คคูน ว่าแท้ที่จริงแล้ว เขามีที่มาเป็นอย่างไร ใครกันที่เป็นคนสร้างให้เขากลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่อย่างวันนี้ หนังบอกเล่าให้เรามองเห็นบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในใจของร็อกเก็ตมานานปี ทำให้เราเข้าใจความเป็นเขาได้มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ถือว่าเป็นเรื่องที่แสนจะเจ็บปวด เพราะเราจะเห็นชีวิตของพวกเขาที่สุดแสนจะรันทด ที่พยายามจะมองชีวิตอย่างมีความหวังจนถึงที่สุด ทำใจยอมรับชะตากรรมจนถึงที่สุด แต่ก็ยังคงต้องถูกทำร้ายซ้ำๆ จนเกินจะทนต่อไปได้อีก หนังทำให้เรามองเห็นหัวใจของร็อกเก็ตได้อย่างหมดเปลือกที่สุด และทำให้เราตั้งความหวังกันสุด ๆ ว่า เพื่อน ๆ ของร็อกเก็ตจะช่วยเขาได้ทันเวลา

ด้วยบทของหนัง มันจึงทำให้เราได้มองเห็นความเจ็บปวด น่าสงสารของเหล่าบรรดาสัตว์ที่ถูกจับมาทำการทดลอง ว่าพวกเขาจะสิ้นหวังกันอย่างไร หนังใช้วัตถุดิบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า กระจายไปทั่วทั้งเรื่อง พาให้พล็อตเฉพาะของภาคนี้มีความหนักแน่น และดูเอาจริง และพาให้รู้สึกสะเทือนใจ
สำหรับเนื่อเรื่องก็ยังมีอะไรแปลกให้ แถมยังมีดาวดวงใหม่ที่สุดแปลกตา อย่างดาวประดิษฐ์ที่พวกเขาต้องแอบเข้าไปเพื่อที่จะนำบางสิ่งออกมาเพื่อไปช่วยร็อกเก็ต ทว่า สิ่งที่ยังคงทำได้ดีไม่เปลี่ยนก็คงจะเป็นเพลงประกอบที่ เจมส์ กันน์ ยังค้นหาเพลงเก่าๆ มาใช้ได้อย่างเหมาะเหม็งกับเรื่องราว ให้สมกับเป็นแก๊งที่รักเสียงเพลงกันสุดๆ จนจัดเป็นอีกหนึ่งเพลย์ลิสต์ที่น่ารื่นรมย์ ซึ่งก็เปิดฟังกันเพลินรวมทั้งสามภาคได้ที่นี่เลยครับ
เปิดเผยเรื่องส่วนตัวของร๊อกเก็ต
ถึงแม้ว่าตัวผู้กำกับเองนั้น ถึงจะรู้รู้ถึงจุดเด่นจุดด้อยของหนังใน2ภาคก่อนหน้านี้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นหนังแนะนำซุปเปอร์ฮีโร่ แต่ก็มีงานแอ็กชันที่สนุกและเฉลี่ยกราฟความสนุกได้ดี ในขณะที่ Vol.2 มีดีในแง่ของการเล่าเรื่องปมของแต่ละตัวละคร และเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัว หรือแม้แต่การผสมจังหวะอารมณ์ขัน ความอบอุ่น และประเด็นความเป็นคนนอกคอก ความเป็น Underdog และความคืบหน้าเหตุการณ์บางอย่างใน Holiday Special
พอหนังจะเป็นภาคสุดท้ายแล้ว ตัวผู้กำกับเองเลย ใส่ความหลากหลายเข้าไป เรื่องราวต่างๆให้มันจบในภาคนี้ไปเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีปมใหญ่ที่เดินเรื่องในภาคนี้ก็คือเจ้าร็อกเก็ตนี่แหละ ที่ในตัวอย่างหนังกับโปสเตอร์ก็จะสังเกตได้ว่าจะมีเจ้าร็อกเก็ตเต็มไปหมด ซึ่งมันก็สอดคล้องกับที่กันน์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ร็อกเก็ตนี่แหละคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาอยากกลับมาทำguardians of the galaxy 3 สปอย

งานนี้มาถึงคิวของเจ้าแร็คคูน ร็อกเก็ต เขายังยังไม่เคยถูกเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวมาก่อน ผู้กำกับเองเลยคิดที่จะให้ ร็อกเก็ตเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวในภาคนี้ และเป็นเหมือนกับตัวแทนของกลุ่มคนไม่เอาไหนที่มารวมตัวกันเป็นแก๊งการ์เดียนส์ที่เป็นปึกแผ่น รวมทั้งที่มาของความอัจฉริยะของเจ้าแร็กคูนปากเก่งตัวนี้ด้วย ตัวหนังก็เลยจะตัดสลับกับเหตุการณ์ ณ ปัจจุบันที่ร็อกเก็ตนอนโคมาอยู่บนยาน เดอะ มิลาโน
ตัดสลับ Flashback ไปกับเรื่องราวของร๊อกเก็ตที่ยยังคงเป็นแค่สัตว์ตัวน้อยๆตัวหนึ่ง ที่ถูกจับมาทดลอง เมื่อเขามาที่นั้นได้พบกับบรรดาสัตว์ต่างๆที่ถูกจับมาทดลองแล้วเขาก็ได้เป็นเพื่อนกับสัตว์เหล่านั้นในเวลาต่อมา ซึ่งใน Flashback ก็จะทยอยเปิดเผยตัวตนของเจ้าร็อกเก็ตเองแล้วนั้นก็เป็นสาเหตุที่เหล่าแก๊งเกรียนต้องบินข้ามจักรวาลเพื่อไปบุกรังของ ไฮ เรฟโวลูชันนารี เพื่อหาวิธีช่วยร็อกเก็ตให้ได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องหลบหนี อดัม วอร์ล็อก ที่ก็กำลังออกตามหาร็อกเก็ตด้วยเหมือนกัน
เน้นไปทางปมดราม่าซะส่วนมาก
พอมาถึงตอนที่เดอะการ์เดี้ยน 3 ต้องเดินทางออกผจญภัยนั้น ก็เริ่มต้นความสนุก ความตื่นเต้น ผ่อนคลายความดราม่าตับแตก และเริ่มเข้าสู่โหมดเกรียนอีกครั้ง ซึ่งในภาคนี้ถ้าสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นได้ว่า แต่ละมุกที่เล่น หรืออารมณ์มวลรวมของแต่ละตัวละครมีความเคร่งขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในภาคนี้บรรยากาศของหนังจะไปในแนวซีเรียส ดราม่าซะเยอะ โดยปมความเป็นครอบครัว ความเป็นคนนอกคอกไม่มีใครเอา รวมถึงตอกหน้าแนวคิดการมุ่งเน้นการสร้างโลกและสังคมที่สมบูรณ์แบบ ที่แอบมีความเป็นการเมืองนิด ๆ รวมทั้งบรรดามุกห่ามร้าย มุกหยาบคายจากหลายตัวละครที่เริ่มเติบโตขึ้นตามเวลา

ครั้งนี้หนังค่อนข้างจะลดความกวน ความฮา ออกไปเยอะ มีความสนุกแบบที่เราเคยชอบกันใน 2 ภาคแรกมันหายไปเยอะพอประมาณ แต่มันก็แลกมาด้วยความรู้สึกเติบโตของตัวละครและเรื่องราวที่จริง ๆ มันก็การ์ตูนแหละ แต่อาจจะเป็นการ์ตูนที่โตขึ้นไปอีกขั้น
แล้วอีกจุดที่ดูจริงจังมากกว่าเดิมก็คงเป็น ฉากแอ๊คชั่น ที่งานนี้จัดหนังใส่เต็มดูจริงจัง ทั้งงานโปรดักชัน และวิชวลเอฟเฟกต์ ที่ยังเน้นสีสันจัดจ้าน ประหลาดล้ำแปลกตา แต่ก็มีการใช้วิชวลที่ดูน่าขยะแขยงน่าเกลียด รู้สึกหยึย ๆ แหวะ ๆ ไม่เหมือนในภาคก่อน ๆ ที่เน้นความสวยอลังการ และงานแอ็กชันที่ผู้เขียนคิดว่าดีกว่าในทุก ๆ ภาคครับ โดยเฉพาะในองก์ที่ 3 ที่เป็นแอ็กชันแบบลองเทกยาวเหยียดที่ทำออกมาได้แบบว่า โคตรโหดโคตรอันตรายจริง ๆ
มีหลากหลายรสชาติให้ได้ชมใน Guardians of the Galaxy3
การ์เดียน 3 นักแสดงยังคงใช้นักแสดงชุดเก่าอยู้ แต่ในภาคนี้บอกเลยขนตัวละครใหม่มาเพิ่มอีกเพียบ โดยเจ้าหมาคอสโม แครกลิ้น ชาวราเวเจียนที่พยายามถ่ายทอดความเป็นยอนดู, อดัม วอร์ล็อค ผู้มีพลัง และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงจะเป็นบทบาทของ ชุควูดิ อิวูจิ เมื่อเขาต้องเป็นวายร้ายที่โหดเหี้ยมที่สุดผู้แอบอ้างตนเป็น คนดีย์ ที่มุ่งสรรค์สร้างโลกใหม่ แต่แลกมาด้วยการวิจัยผ่านสัตว์ทดลองจำนวนมหาศาล
หนังเองก็ใส่ความวุ่นวายเข้ามาในแก๊งการ์เดี้ยนส์เหมือนอย่างที่เคย ตามแบบฉบับของพวกเขามราเคยมีมา ที่ต่างคนต่างมีความคิดเป็นของตนเอง ต่างก็ทำตามใจที่ตนต้องการ ซึ่งก็ไม่ค่อยจะเป็นไปในทางเดียวกันสักเท่าไหร่ ส่งผลให้ระหว่างทาง ภารกิจของพวกเขาต้องปั่นป่วนอย่างมากมาย แม้ผลสุดท้าย พวกเขาจะไม่พลาดทำได้ตามเป้าเสมอ แต่ครั้งนี้ ดูท่าจะต่างออกไป
อย่างที่เราทราบกันว่ามันคือภาคสุดท้าย ภาคสั่งลา มันเลยดูไม่สนุกครื้นเครง แถมมีให้เราได้ชมหลายรสชาติทั้งหดหู่ใจกับสิ่งที่ร็อกเก็ตได้เคยเจอะเจอ ขำร่วนกับความโบ๊ะบ๊ะของเหล่าเดอะแก๊ง และเพราะความผูกพัน แม้จะเข้าใจแต่ก็อดได้ที่จะน้ำตาซึม ต่างคนต่างก็มีหนทางของตนเอง เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ทุกคนต่างพบเจอสิ่งใหม่ที่พวกเขาต้องการ แต่ ‘มิตรภาพ’ จะยังอยู่เหมือนเดิม

มันอาจจะไม่ได้สนุกมากหรือสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน แต่ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการจากลาในแบบFarewell ของทั้งผู้กำกับคนนี้ บรรดานักแสดง และอวสานแฟรนไชส์ชุดนี้ได้อย่างน่าประทับใจ ถ้ามองโดยภาพรวมของ MCU ก็อาจจะพูดได้ว่า นี่คือหนังที่ทำได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของยุค The Multiverse Saga เป็นหนังที่ยังรักษาหัวใจและสไตล์เกรียน ๆ ของตัวเองได้อย่างครบถ้วน ในขณะที่ก็ยินยอมให้ตัวเองเติบโตขึ้น เคร่งขรึมขึ้น
ซึ่งเป็นหนังที่ผู้เขียนคิดว่า เจมส์ กันน์ คงรักมันมาก ๆ และน่าจะมีความสุขตอนทำไม่น้อย เลยสามารถเล่าเรื่องออกมาได้อย่างมีหัวจิตหัวใจ และทำให้คนดูรู้สึกรักเหล่าการ์เดียนส์ได้เหมือนกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่แม้ว่าตอนนี้อาจจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แต่เราจะคิดถึงเพื่อนเกรียน ๆ ขาด ๆ เกิน ๆ แก๊งนี้มากแน่ ๆ เลย