รีวิวYaksha Ruthless Operations (2022) ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์…กลางดงสายลับสุดอันตราย
วันนี้จะพามาดูหนัง เว็บดูหนังเถื่อน และ รีวิวหนังแอ๊คชั่น เรื่อง รีวิวYaksha ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์ กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์สัญชาติเกาหลี แนว Action สืบสวน สอบสวน ระทึกขวัญ เป็นหนังที่งานดีแต่หนีความเป็นเกาหลี (บางอย่าง) ไม่พ้น หนังรวมสายลับเอเชียที่ดุเดือดเลือดพล่าน แอ็กชันโหดดุ ที่ต้องใช้สมาธิสูงในการรับชม
แถมตอนนี้ยังมีหนังใหม่อย่าง The Flash 2023 ที่ออกมาให้รับชมมากมาย การสปอยหนังวันนี้จะเน้นไปเรื่อง ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์และการที่พวกเขาปฏิบัติหน้าที่กันเป็นทีม เรื่องราวจะเป็นยังไง ไปดูรีวิวหนังเรื่องนี้ดีกว่า และเพื่อนๆสามารถ ติดตามดู เว็บเถื่อนดูหนัง และ ดูหนังเถื่อน ได้ที่นี่เลย
รีวิวYaksha Ruthless Operations เต็มเรื่อง
ผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ใช่แค่หนังดังระดับโลก ที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนต้องยอมปล่อยลงช่องสตรีมมิง หนังเกาหลีใต้ก็มีเหมือนกัน อย่างเช่น Yaksha: Ruthless Operations เรื่องนี้หนังทุนสูง ที่สุดท้ายยอมขายให้กับทาง NETFLIX ก็ดูจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะหลังจากปล่อยสตรีมมิงแค่เพียงสัปดาห์แรก
หนังก็สามารถเข้าชาร์ต TOP 10 ของ Netflix ได้ในอันดับ 3 มีคนดูมากมาย 12,540 ล้านวิว อาจมีการเปลี่ยนแผน ไม่แน่ว่าถ้ายังคงฉายโรงตามแผนเดิม หนังอาจจะไม่ฮิตขนาดนี้เพราะหนังหนังก็ไม่ได้จุดขายอะไรเลย ทั้งตัวผู้กำกับ นา ฮย็อน (Na Hyeon) ก็มาจากอดีตนักแสดงและมือเขียนบท ที่เพิ่งมีผลงานกำกับมาแค่เรื่องเดียว

ผลงานเขียนบทที่เคยสร้างชื่อในอดีตก็มี มาย เวย์ (2011) หนังสงครามที่ได้ แจง ดองกัง มารับบทนำ ส่วน 2 นักแสดงนำในเรื่องนี้ก็มี ซอลคยองกู จาก ความทรงจำของฆาตกร และ พัคแฮซูที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้ากันจาก สควิดเกม เล่นลุ้นตาย
เรื่องย่อ ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์ หนังแอ๊คชั่นสุดยอดเยี่ยม
เริ่มต้นมา ก่อนจะไปเจอเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ หนังจะพาเราไปให้ รู้จัก 2 ตัวละครหลัก เริ่มจาก จีคังอิน ตำรวจจอมโหดที่มีฉายาที่โหดมากๆคือ ยักษ์ ที่กลายมาเป็น ชื่อเรื่อง Yaksha นี่แหละ ในหนังอธิบายว่าชื่อนี้มาจากภาษาสันสกฤต แต่ในที่นี้ไม่ได้อิงถึงขนาดร่างกายที่ใหญ่โต แต่อิงจากความโหดเหี้ยมอำมหิต เราได้เห็น จีคังอินตามล่าผู้ต้องสงสัยไปตามท้องถนน
ก่อนจะระเบิดกระสุนใส่สมองคู่กรณี นับเป็นการเปิดตัวพระเอกของเรื่องแบบที่เรียกร้องความสนใจผู้ชมได้ดี และ เป็นการเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ โดยที่ยังไม่มีคำอธิบายใด ๆ ถึงที่มาที่ไปของการไล่ล่านี่
หนังก็ตัดมาแนะนำอีกตัวละครนำ ฮันจีฮุน อัยการฝีมือดี ที่กำลังทำคดีใหญ่เอาผิดนักธุรกิจรายใหญ่ แต่มาเสียฟอร์มเพราะลูกน้องในทีมทำผิดกฏระเบียบระหว่างสืบสวน ทำให้ต้องแพ้คดี และโดนย้ายไปอยู่หน่วยเล็ก ๆ ชานเมือง

แต่เมื่อเวลาผ่านไปแค่ชั่วครู่ เขาก็ได้มีโอกาสอีกครั้ง กับ อัยการฮัน เขาได้ขอรับภารกิจเสี่ยงๆครั้งนี้เอง ที่ต้องเดินทางไปเมืองเสิ่นหยางประเทศจีน เพราะที่นั่นมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษ แบล็ก ที่ดูเหมือนจะมีลับลมคมใน
แอบแฝงไม่รายงานการปฏิบัติงานตามที่เป็นจริง และ เมื่ออัยการฮันไปถึงเสิ่นหยาง เขาก็ได้พบกับ ‘ยักษ์’ หรือจีคังอิน ที่เป็นหัวหน้าหน่วยแบล็กนี้เอง นับเป็นการปูพื้น 2 ตัวละครนำที่กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแรกของหนัง.
จากนั้นหนังก็เดินหน้าเร็วขึ้น ด้วยการแนะนำตัวละครอีกมากมาย ทั้ง 3 ลูกน้องฝีมือดีประจำหน่วยแบล็ก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ จินยอง จาก Got 7 ที่ใส่เข้ามาเรียกกลุ่มผู้ชมที่เป็นแฟนคลับได้ และ โยชิโนบุ โอซาวะ หัวหน้าหน่วยราชการลับจากญี่ปุ่น ในฐานะตัวร้ายของเรื่อง ที่มีความแค้นอันยาวนานกับจีคังอิน
รีวิวYaksha เรื่องราว และ พล็อตของหนัง
เนื้อเรื่องของ Yaksha เต็มเรื่อง เป็นยังไงต่อหลังจาก ส่วนปฏิบัติการในเสิ่นหยางนี้ จีคังอินสืบรู้ว่า โอซาวะ จับตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือไป เพราะต้องการเอกสารลับสำคัญบางอย่าง จีคังอินและทีมจึงพยายามชิงตัวเจ้าหน้าที่ผู้นี้และสืบให้รู้ได้ว่าเอกสารสำคัญนั้นคืออะไร
และเมื่อได้ถึงเวลาเปิดตัวละคร อย่าง โอซาวะ ที่แสดงเป็นตัวละครร้ายสุดๆของเรื่องเลย หนังก็เข้าสู่โหมดแอ็กชันแบบเต็มตัว ใส่ฉากแอ็กชันเข้ามาถี่ยิบ มีเอฟเฟค อลังการมากมาย สาดกระสุน ระเบิดตู้มต้าม
ไปจนถึงการใช้ศิลปะการต่อสู้ด้วยมืออีกต่างหาก ก็ทำให้เชื่อได้ละครับว่าหนังน่าจะใช้ทุนสร้างสูงจริงตามที่โฆษณาไว้ ควบคู่ไปกับปริศนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่าเอกสารลับที่โอซาวะตามล่าอยู่นั้นคืออะไร

ซึ่งเมื่อเผยออกมาก็ไม่ได้ชวนว้าวแต่อย่างใด ยังคงอยู่ในกรอบหนังสายลับที่เราผ่านตากันบ่อย ๆ ฉากแอ็กชันของ Yaksha ถือได้ว่าเป็นจุดขายของหนัง แต่ขณะเดียวกันก็ค่อนข้างเป็นจุดอ่อนของหนังไปด้วยคราเดียวกัน นั่นก็เพราะหนังอัดฉากแอ็กชันมาให้ค่อนข้างถี่ ทั้งฉากเล็กฉากใหญ่ แต่ก็ไม่มีฉากที่ชวนตื่นตา
ฝ่ายพระเอกไม่ได้พลาดท่าเสียทีให้ชวนลุ้น ทั้งตัวจีคังอินและลูกทีมล้วนใส่พระดีมากันทั้งนั้น ฝ่ายตรงข้ามสาดกระสุนมาเท่าไหร่ก็ไม่โดนสักนัด เมื่อเข้าสู่ฉากต่อสู้ ฝายพระเอกก็เลยไม่น่าเป็นห่วงเท่าใดนัก ซึ่งก็รวมไปถึงฉากไคลแมกซ์ของหนัง ที่สร้างบรรยากาศรอบข้างเล่นใหญ่ตู้มต้ามแต่ไม่ได้รุ้สึกว่าลุ้นตามไปด้วยเลย
ข้อดีของหนังเรื่องนี้ ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์
หนังเรื่องนี้ yaksha นักแสดง มีข้อดีหลักๆเลย คือ เป็นการแหวกแนว สร้างความแปลกใหม่ บทบาทของตัวละคร โดยการในการจับคู่ 2 ตัวละครนำที่ค่อนข้างคอนทราสต์กัน ซอลคยองกู นั้นเหมาะมากกับบทจีคังอิน ด้ายภาพลักษณ์ที่หยาบกร้าน สายตาแข็งกร้าว
ทั้งเรื่องไม่มีรอยยิ้มให้เห็น ทำให้เชื่อได้ว่าเขาคือสายลับจอมโหดตัวจริง ยิงใส่คู่ต่อสู้ได้อย่างไร้ปราณี แล้วต้องมาประกบกับ ฮันจีฮุน ที่รับบทโดย พัคแฮซู ที่เรียกได้ว่าแทบจะมาจากคนละโลกเลย

เพราะรายนี้คืออัยการที่ถนัดแต่งานนั่งโต๊ะ สะอาด เนี้ยบ แล้วจับพลัดจับผลูต้องมาลงสนามจริง ที่มีแต่กระสุนปลิวว่อน ฮันจีฮุน จึงต้องทำหน้าที่ สอดแทรกกับความบันเทิง ไม่ให้โทนเรื่องที่มีแต่คนโหดดุ จนโทนหนังดูหนักกินไปนัก ก็เป็นทั้งพระเอกตัวรองและเป็นตัวสร้างสีสัน พอเรียกรอยยิ้มให้คนดูได้บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นตลกปัญญาก่อนเกินไปนัก จนเสียมาดอัยการฝีมือดี.
จุดสำคัญของหนัง ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์
หน้าที่หลักๆที่สำคัญมากๆของอัยการฮันก็คือ เขาเป็นตัวละครหลัก ที่จะนำพาเรื่องราวต่างๆและทำหน้าที่แทนสายตาผู้ชม ที่พาเราไปสู่เมืองเสิ่นหยาง ไปแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ว่าใครเป็นใคร มีปฏิบัติการอะไรลึกลับแอบแฝงอยู่ที่นี่
ซึ่งการเดินเรื่องแบบนี้ก็ถือว่าทำได้ดี ชวนติดตาม หนังเดินหน้าไปพร้อมกับปะติดปะต่อเรื่องราว ผู้คน แล้วค่อย ๆ เข้าใจสถานการณ์โดยรอบทีละนิด แต่ก็ต้องเป็นการรับชมที่ใช้สมาธิอย่างสูง
เดิมทีหนังสายลับ ก็มีเนื้อหาที่ซับซ้อนพอตัวอยู่แล้ว แต่กับ ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์ พากย์ไทย เต็มเรื่อง นึ่ต้องใช้สมาธิเพิ่มมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง เพราะหนังมีตัวละครเยอะมาก และแต่ละตัวก็มาจากแต่ละประเทศ ทั้งเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน แถมยังมีเอ่ยถึงรัสเซีย และสหรัฐฯ อีกด้วยนะ

แล้วหนังยิ่งพูดถึงสายลับที่แอบซ่อนอยู่ใน่แต่ละองค์กร ก็ยิ่งต้องคิดตามตั้งข้อสงสัยว่าใครจะถูกเผยว่าเป็นสายลับของฝ่ายตรงข้าม แล้วการเผยตัวตนสายลับที่เป็นคนของโอซาวะ บางรายก็นับว่าเกินคาดเดา ก็นับว่าเซอร์ไพรส์คนดูได้ดี แต่บางรายก็คาดเดาได้แต่แรก
ปฏิบัติการยักษ์ล้มยักษ์ หนังดีแอ๊คชั่นมัน
อีกอย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ที่โชว์ความโดดเด่นมากเลย คือการงานกำกับศิลป์ ที่สื่อผ่านการคุมโทนสีของหนังมาตั้งแต่โปสเตอร์ เน้นสี แดง-ม่วง-น้ำเงิน
สอดแทรกอยู่ในหลาย ๆ ฉากโดยเฉพาะฉากกลางคืน ถ่ายทอดบรรยากาศของเมืองเสิ่นหยางให้เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันยามค่ำคืน และช่วยให้โทนหนังไม่ดาร์กเกินไปนัก
หนังเรื่องนี้ รวมๆแล้ว Yaksha Ruthless Operations รีวิว ถือว่าเป็นหนังของเกาหลี ที่ได้สร้างความแปลกใหม่โดยย้ายไปถ่ายทำ ที่ประเทศจีนเลย ที่ทุนหนาพอสมควร เดินเรื่องได้น่าติดตามพอควร เป็นหนังที่ต้องตั้งใจดู
ไม่ใช่เปิดมาแล้วทำนู่นทำนี่ไปด้วยได้ หนังจบแบบปูทางต่อไปภาค 2 ดูแล้วว่าหนังค่อนข้างประสบความสำเร็จ ก็มีสิทธิ์สูว่าเราจะได้เห็นการแท็กทีมของ จีคังอินและอัยการฮันในภาคต่อไปเป็นแน่
